คณะกรรมการอิสระ ตำหนิ WHO และภาครัฐทั่วโลกทำงานบกพร่องร้ายแรงและล่าช้า ควบคุมการระบาดของโควิด-19

         คณกรรมการอิสระที่ศึกษามาตรการเตรียมความพร้อม สำหรับป้องกันโรคระบาดขององค์การอนามัยโลก (WHO)ที่มีนางเฮเลน คลาร์ก อดีตนายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ เป็นประธาน ระบุว่า การระบาดทั่วโลกของโรคโควิด-19 เป็นเรื่องที่ WHO และทั่วโลก ควรจะหาทางป้องกันได้ตั้งแต่แรก พร้อมชี้ถึงข้อบกพร่องที่ร้ายแรง รวมถึงความล่าช้าในการทำงานของทั้งฝ่าย WHO และภาครัฐทั่วโลก เป็นสาเหตุทำให้โควิด-19 ระบาดเหมือนไฟลามทุ่งจนปัจจุบัน

          ในส่วนของ WHO คณะกรรมการอิสระ เห็นว่า WHO ควรจะประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นปัญหาฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลกตั้งแต่การประชุมนัดแรก เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 เพื่อให้ทุกประเทศ ตระหนักถึงภัยคุกคามทางสาธารณสุขและจัดทำมาตรการป้องกันโรคแต่เนิ่นๆ แต่ WHO มาออกประกาศฉบับนี้ในการประชุมนัดต่อมาคือวันที่ 30 มกราคม 2563 ซึ่งคณะกรรมการอิสระ มองว่า ล่าช้าเกินไป พร้อมทั้งเตือนว่า หาก WHO ยังไม่ปฏิรูปการทำงานโดยเร็ว มีแนวโน้มว่า ระบบสาธารณสุขทั่วโลกอาจจะอ่อนแอ จะไม่สามารถรับมือกับโรคระบาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

          นอกจากนั้น คณะกรรมการชุดนี้ ยังเห็นว่า การทักท้วงของWHO ต่อคำสั่งของบางประเทศที่ห้ามเครื่องบินโดยสารจากจีนเข้าประเทศ ไม่เหมาะสมและควรจะเป็นทางเลือกสุดท้าย  แต่คณะกรรมการอิสระ เห็นว่า มาตรการนั้นกลับเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคจนถึงปัจจุบัน          

          ส่วนข้อบกพร่องของภาครัฐ คือการไร้แผนควบคุมโรค โดยยังไม่มีประเทศใดควบคุมการแพร่ระบาดได้ แถมยังมีมาตรการคลายล็อก ยิ่งทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดทำได้ยาก และยังเกิดการระบาดอย่างรุนแรงในหลายประเทศในแถบเอเชีย เช่นอินเดีย  รวมทั้งยังชี้ว่า สหรัฐฯและกลุ่มอียูปล่อยเวลาในเดือนกุมภาพันธ์ ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ ทำให้โควิด-19 ระบาดหนัก จนเพิ่งจะเริ่มทำแผนควบคุมโรคในช่วงที่สถานการณ์ร้ายแรงคือในช่วงเดือนมีนาคม ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เตียงคนไข้ไม่เพียงพอรองรับซึ่งนับว่าล่าช้าเกินไป

Cr: BBB