ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ เวลา 19.30 น.ประจำวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ เวลา 19.30 น.ประจำวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 

อย.ให้ความมั่นใจวัคซีนซิโนแวค มีความปลอดภัย

          ประเด็นการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก(WHO) ที่ยังไม่อนุมัติให้ใช้วัคซีนซิโนแวคทั้งที่นำวัคซีนตัวนี้มาฉีดให้คนไทย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ชี้แจงว่า  องค์การอนามัยโลก อนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉิน(WHO Emergency Use Listing Procedure :EUL) วัตถุประสงค์เพื่อ

1.อนุมัติใช้วัคซีนในโครงการโคแวกซ์

2.องค์การอนามัยโลกมาประเมิน เพื่อให้บางประเทศใช้อ้างอิงขึ้นทะเบียนวัคซีนในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ระบบการกำกับดูแลด้านวัคซีนยังไม่สมบูรณ์ ก็จะใช้การอ้างอิงจาก WHO EUL ได้

          แต่สำหรับประเทศไทยมีระบบการกำกับดูแลวัคซีนที่ได้รับการรับรอง WHO PQ จากองค์การอนามัยโลก และเป็นสมาชิกของ PIC/s ด้วย จึงสามารถดำเนินการพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนได้อย่างมีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนของแอสตราเซเนกาก่อนการรับรองของ WHO EUL

          พร้อมยืนยันว่า วัคซีนของซิโนแวคเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีการอนุมัติให้ใช้กว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่ง อย. ได้ประเมินและขึ้นทะเบียนโดยผ่านเกณฑ์องค์การอนามัยโลก เรื่องประสิทธิผลในการป้องกันโรคมากกว่า ร้อยละ 50 สามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ ร้อยละ 100

          นอกจากนี้ จากการศึกษาภูมิต้านทานที่เกิดจากการฉีดวัคซีนของซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว เป็นเวลา 1 เดือน ในประเทศไทย ของ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ พบว่า เกิดภูมิต้านทาน ร้อยละ 99.4 ในขณะที่ 4-8 สัปดาห์ หลังติดเชื้อโดยธรรมชาติ ตรวจพบภูมิต้านทานได้ร้อยละ 92.4

          ขณะนี้ อย. ขึ้นทะเบียนวัคซีนแล้ว 3 ราย ได้แก่ 1.วัคซีนแอสตราเซเนกา โดยบริษัทแอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด และที่ผลิตในประเทศโดย บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด 2.วัคซีนโคโรนาแวค ของบริษัท ซิโนแวค นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม และ 3.วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยบริษัท แจนเซ่น-ซีแลค จำกัด

ศบค. เร่งฉีดวัคซีนให้ผู้ที่มีอาชีพสาธารณะ

          การระดมฉีดวัคซีนให้กับคนไทย พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้มีการสรุปเรื่องการฉีดวัคซีน โดยกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รายงานว่าวันที่ 10 พ.ค.มีผู้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 1,809,894 โดส เข็มที่ 2 มีประชาชนได้รับวัคซีนไปแล้ว 513,454 คน

          ในสัปดาห์นี้จะมีการระดมอาชีพสาธารณะผู้ที่ขับขี่รถ เรือ เครื่องบิน ครู พนักงานเก็บขยะ จะมีการระดมให้ฉีดวัคซีนในช่วงระยะแรกไปพร้อมกับผู้สูงอายุและผู้มีประวัติมีโรคประจำตัว โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศปก.ศบค.ได้ย้ำนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้คือคนไทย 70% จะได้รับวัคซีนภายในเดือน ธ.ค.64 โดยรวมแล้วคือประชาชน 50 ล้านคน ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนเตรียมไว้ 100 ล้านโดส พร้อมเน้นย้ำไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชน ให้กระจายวัคซีนให้ได้ตามแผน

          ดังนั้น ขณะนี้ทุกจังหวัดเริ่มมาตรการนี้แล้ว โดยแยกตามประชากรของแต่ละจังหวัด และรวมถึงประชากรแฝงในพื้นที่ที่อาจจะมีบ้างด้วย ดังนั้น โดยคร่าวๆในเดือน ก.ย.จังหวัดจะดำเนินการฉีดวัคซีนแล้วเสร็จ 70% และฉีดเข็มที่ 2 ให้ทันในเดือน ธ.ค.โดย ศบค.จะติดตามการกระจายวัคซีนให้เป็นไปตามแผนการป้องกันการแพร่ระบาดของกระทรวงสาธารณสุข

          ส่วนสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างมีความแออัด และไม่มีการจัดระเบียบ จึงเป็นห่วงว่าจะทำให้เกิดผลกระทบอื่นๆ ตามมา พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ทาง ศบค.ได้แจ้งไปทาง กทม.และสำนักงานเขตแล้ว ซึ่งทุกภาคส่วนได้รับเรื่องและให้คำมั่นว่าจะมีการจัดการให้เป็นระบบที่ดียิ่งขึ้น

อินโดนีเซีย มั่นใจวัคซีน ซิโนแวค ของจีนมากขึ้น

          สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค ไบโอเทค ของจีน ในอินโดนีเซีย พบว่า มีประสิทธิภาพร้อยละ 98 ในการป้องกันการเสียชีวิต และร้อยละ 96 ในการป้องกันการเกิดอาการรุนแรงที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยผลการศึกษาดังกล่าว ไม่ได้เป็นผลการศึกษาในกลุ่มประชาชนทั่วไป แต่เป็นการศึกษาผลจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ชาวอินโดนีเซีย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค ไบโอเทค ของจีน ปัญจี เดวันทารา หัวหน้านักวิจัยและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เปิดเผย ในการบรรยายสรุปในวันพุธ (12พ.ค.64) ว่าการศึกษานี้เป็นการสำรวจข้อมูลของบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 120,000 คน ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ได้รับวัคซีนระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2564

          ก่อนหน้าการเก็บข้อมูลในครั้งนี้ มีการทดลองวัคซีนซิโนแวคระยะที่ 3 ในอินโดนีเซีย ซึ่งพบว่าวัคซีนได้ผลร้อยละ 65 การทดลองในตุรกีพบว่าได้ผลร้อยละ 91.25 ในขณะที่นักวิจัยในบราซิล ระบุว่ามีประสิทธิภาพเพียงร้อยละ 50.4 ในการป้องกันการติดเชื้อที่แสดงอาการ

นนทบุรี เปิดไทม์ไลน์ ผู้ป่วยคนแรกของตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี หญิง 51 ปี ขายผัก

          สำนักงานสาธารณสุข จ.นนทบุรี รายงานสถานการณ์การติดเชื้อในตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี ว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 64 พบผู้ป่วยคนแรกที่ทำให้รู้ว่าพื้นที่นี้มีการระบาด

- ผู้ป่วยลำดับที่ 2380 (ของการระบาดลอกใหม่) อายุ 51 ปี เพศหญิง อ.เมือง ต.ตลาดขวัญ อาชีพ ขายผักตลาดนนท์ (ปากซอยแสงเทียนใกล้ร้านบิ๊กบิ้วตี้) เทศบาล1 สัมผัสผู้ติดเชื้อมีอาการ CT = 23.61 นอนโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ

-1 พ.ค.64

ทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 โรงพยาบาลรับไปรักษาที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ผู้ป่วยมี อาการเล็กน้อย เลยส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลป่าโมก (โรงพยาบาลสนาม)

-ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน จำนวน 3 คน

1. (พี่ชาย) อายุ 53 ปี ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว เมื่อ 30 เม.ย.64 ที่โรงพยาบาลศุภมิตร สุพรรณบุรี ผลพบเชื้อ รักษาตัวที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง (1 พ.ค.64) ต่อมา เหนื่อยหอบ จึงส่งต่อไป ที่โรงพยาบาลอ่างทอง (ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หมู่ 8 ต.คลองขนาก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง)

2. (น้าสาว) อายุ 60 ปี ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อ 30 เม.ย.64 ที่โรงพยาบาลศุภมิตรสุพรรณบุรี ผลพบเชื้อ รักษาตัวที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง (1 พ.ค.64) ต่อมา เหนื่อยหอบ จึงส่งต่อไป ที่โรงพยาบาลอ่างทอง(ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน จังหวัดอ่างทอง )

3. (ลูกพี่ลูกน้อง) อายุ 28 ปี ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อ 1 พ.ค.64 ที่ โรงพยาบาลศุภมิตรสุพรรณบุรี ผลไม่พบเชื้อ กักตัวที่บ้าน (ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน จังหวัดอ่างทอง ไม่ทราบรายละเอียด)

คนที่ร่วมทำงาน แผงใกล้กัน จำนวน 2 คน

1. อายุ 59 ปี ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว ไม่พบเชื้อ กักตัวที่บ้าน

2. (ลูกชายคนร่วมงาน) อายุ 38 ปี ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว ไม่พบเชื้อ กักตัวที่บ้าน

ไต้หวันเตรียมยกระดับรับมือโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อไม่รู้ที่มา

            นายเฉินสือจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดไต้หวัน ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในไต้หวันว่า ขณะนี้สถานการณ์ตึงเครียดมาก และมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเข้าสู่การใช้มาตรการป้องกันระดับที่ 3 ตอนนี้ ศูนย์บัญชาการฯ ได้สั่งการให้โรงพยาบาลที่ใช้เป็นสถานที่รับรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 และโรงพยาบาลที่พร้อมรับมือ ไต้หวันได้ประกาศมาตรการป้องกันโควิด-19 ระดับ 2 เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อที่ไม่ทราบต้นตอถึง 6 คน  สร้างความวิตกกังวลให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง และในเช้าวันนี้ (12 พ.ค.) นายเฉิน ตอบข้อซักถามของ ส.ส. ในการประชุมคณะกรรมาธิการสาธารณสุขว่า สถานการณ์ในตอนนี้เครียดมาก แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะมีการยกระดับมาตรการป้องกันเป็นระดับ 3 หรือไม่

        ระดับการเตือนของศูนย์บัญชาการฯ ระบุให้ยกระดับเป็นระดับ 2 เมื่อพบผู้ติดเชื้อในประเทศที่ไม่ทราบต้นตอ ส่วนระดับ 3 เมื่อพบการแพร่เชื้อในชุมชน 3 คนขึ้นไปใน 1 สัปดาห์ หรือมีผู้ติดเชื้อในประเทศที่ไม่ทราบต้นตอวันเดียว 10 คน ขึ้นไป และเมื่อถึงระดับ 3 จะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ห้ามการรวมตัวในที่ร่มเกินกว่า 5 คนขึ้นไป กลางแจ้ง 10 ขึ้นไป กิจการที่เกี่ยวกับการดำรงชีพ การรักษาความสงบเรียบร้อย การบริการที่จำเป็น การรักษาพยาบาลและงานราชการ ให้ประกอบกิจการตามปกติ ส่วนกิจการอื่น ๆ และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ต้องปิดการให้บริการ ชุมชนที่เกิดการระบาด หากจำเป็นต้องอุดช่องโหว่อย่างรวดเร็ว สมาชิกในชุมชนต้องให้ความร่วมมือในการตรวจเชื้อ และห้ามออกจากพื้นที่ปิดล้อม รวมทั้งยกเลิกกิจกรรมรวมกลุ่มและหยุดเรียน

       ขณะนี้ในไต้หวันมีเตียงผู้ป่วยประมาณ 3000 เตียง แม้จะยังเหลืออยู่ค่อนข้างมาก แต่ก็ได้สั่งให้สถานพยาบาลต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับการกักตัวและรับมือการระบาดดำเนินการเช็คและเคลียร์เตียงที่มีอยู่ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือล่วงหน้า  นายเฉินสือจง ได้ย้ำภายหลังว่า การประกาศยกระดับมาตรการป้องกันเป็นระดับ 3 คงจะไม่ใช่วันนี้ แต่อาจเป็นเร็ว ๆ นี้

อินเดียสั่งห้ามทิ้งศพลงแม่น้ำคงคา

          รัฐบาลกลางของอินเดียได้ขอให้แต่ละรัฐตรวจสอบการทิ้งศพของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ลงในแม่น้ำคงคา ขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอก 2 ที่เลวร้าย

นายกาเจนดา สิงห์ เศขาวัต รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรน้ำของอินเดียระบุว่า รัฐบาลจะเพิ่มมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่ามีการกำจัดศพไม่ทราบตัวตนทั้งหมดได้ตามระเบียบในช่วงไม่กี่วันมานี้  รัฐพิหารและรัฐอุตตรประเทศพบศพอย่างน้อย 96 ศพลอยอยู่เหนือแม่น้ำคงคา

          ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนแห่งชาติเพื่อความสะอาดของคงคา (NMCG) ของกระทรวงทรัพยากรน้ำ เรียกร้องให้รัฐต่างๆ ตามแนวแม่น้ำคงคาใช้มาตรการเพื่อหยุดยั้งผู้คนจากการทิ้งศพลงแม่น้ำ

เนปาลประกาศล็อกดาวน์ 64 อำเภอจากทั้งหมด 77 อำเภอคุมโควิด-19

          กระทรวงความมั่นคงภายในของเนปาลประกาศให้ล็อกดาวน์พื้นที่ต่างๆรวม 64 อำเภอ จากทั้งหมด 77 อำเภอ ให้ล็อกดาวน์บางท้องที่ของ 8 อำเภอตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม โดยจะเหลือเพียง 5 อำเภอเท่านั้นที่ไม่มีการล็อกดาวน์ เนื่องจากมีตัวเลขผู้ป่วยใหม่ในระดับต่ำ พร้อมมอบหมายให้นายอำเภอของแต่ละท้องที่ เป็นเจ้าพนักงานที่รับผิดชอบการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในท้องถิ่นตามประกาศฉบับนี้

          สำหรับพื้นที่ล็อกดาวน์ รัฐบาลเนปาลขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้านหรือทำงานจากบ้าน พร้อมขอให้รถสาธารณะและรถยนต์จำกัดการเดินทาง ปิดสถานศึกษาและธุรกิจเอกชน ยกเว้นบริการจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น ร้านสะดวกขอความร่วมมือเปิดบริการในช่วงเช้า แต่ให้บริการตามปกติในทุกอำเภอ 

          ก่อนหน้านี้ เนปาลมีผู้ป่วยใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ในระยะหลังๆนี้ เนปาลพบผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 50-100 คนต่อวันตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ขณะที่อินเดีย เพื่อนบ้าน มีผู้ป่วยใหม่เฉลี่ยกว่า 300,000 คนต่อวันมาหลายสัปดาห์แล้ว

          ในปัจจุบัน เนปาลมีผู้ป่วยสะสม 413,111 คน เสียชีวิต 4,084 ราย

นิกเกอิปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ปัจจัยเดิม เงินเฟ้อสหรัฐฯ

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการลดมาตรการกระตุ้นด้านการเงินในสหรัฐฯ นอกจากนี้แนวโน้มผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่นกดดันตลาดด้วย ปิดตลาดที่ระดับ 28,147.51 จุด ร่วงลง 461.08 จุด 

          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,571.85 จุด ลดลง 7.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 117,160.58 ล้านบาท  

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้จากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากฮั่งเส็งปิดลบกว่า 100 จุดในช่วงเช้าตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 28,231.04 จุด เพิ่มขึ้น 217.23 จุด หรือ

เลื่อนวันลงมติแผนฟื้นฟูการบินไทย

          หลังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดประชุมเจ้าหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการของการบินไทย เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) ในช่วงเช้าของวันนี้ หลังจาก ผู้ทำแผนและเจ้าหนี้หลายรายได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นจำนวนรวม 15 ฉบับ แต่ล่าสุด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคำสั่งให้เลื่อนการประชุมเจ้าหนี้ออกไปตามคำขอของเจ้าหนี้ และกำหนดวันนัดประชุมใหม่ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting)โดยในการประชุมที่เลื่อนออกไปเจ้าหนี้จะสามารถใช้สิทธิลงมติเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการและการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เปิดเผยว่า ผู้ที่ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ 15 ฉบับ มาจากผู้ทำแผน และเจ้าหนี้ ประกอบด้วย ภาครัฐ สหกรณ์ต่างๆ เจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้ให้เช่าเครื่องบิน รวมประมาณ 20 ราย คิดเป็นเกินกว่า 10% ของมูลหนี้ทั้งหมด จึงขอเวลาพิจารณาแผนเพิ่มขึ้น เพราะหากจะแก้ไขแผนจะต้องยื่นก่อนวันประชุม 3 วัน ซึ่งรอบนี้ดำเนินการไม่ทันเวลา

          สำหรับแผนฟื้นฟูฯ ดังกล่าว เบื้องต้นเสนอผู้บริหารแผน 2 ราย คือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI และนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง