การกระจายฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 /2564 มีมติเห็นชอบเพิ่มการจัดหาจำนวนวัคซีน COVID-19 อีก 50 ล้านโดส เพื่อเตรียมไว้ฉีดให้กับประชากร ทำให้ไทยจะมีวัคซีน COVID-19 ในปี 2565 จำนวน 150 ล้านโดส และเร่งเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เพื่อจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมการกลายพันธุ์ รวมทั้งปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้เร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงของโรค เริ่มได้ทันทีตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด โดยการฉีดวัคซีนจะมี 3 รูปแบบ คือ
1.นัดหมายผ่าน แอปหรือไลน์ หมอพร้อม
2.การนัดหมายเป็นกลุ่มก้อน ของทางหน่วยงาน เพื่อขอรับวัคซีน
3.รับการฉีดแบบไม่นัดหมายล่วงหน้า หรือ Walk in
โดยให้จังหวัดทำหน้าที่บริหารจัดเอง กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่กระจายวัคซีนตามคำขอเท่านั้น
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า การฉีดวัคซีนเข็มแรกแบบปูพรมไม่จำกัดแค่พื้นที่ระบาด แต่ให้ดำเนินการในทุกพื้นที่ เป็นหน้าที่ของแต่ละจังหวัดรับผิดชอบ ซึ่งจะระบุยอดเป้าหมายการฉีดแต่ละจังหวัด โดยตั้งเป้าการฉีดวัคซีนครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากร หากจังหวัดไหนพร้อมเริ่มฉีดได้ทันที
สำหรับการจัดฉีดวัคซีนแบบไม่นัดหมายล่วงหน้า จะช่วยลดอุปสรรคของคนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ไม่มีแอปพลิเคชัน หรือดำเนินการผ่านหมอพร้อมไม่ได้ และคนที่ไม่มีประวัติเจ็บป่วยมาก่อน โดยแบ่งสัดส่วนของการฉีดกับการนัดผ่านหมอพร้อม และโรงพยาบาลนัดหมายเป็นสัดส่วน 30-50-20 ปรับเปลี่ยนได้ตามเหมาะสม
นพ.โอภาส ย้ำว่า ทุกขั้นตอนการฉีดยังต้องมีมาตรฐาน สังเกตอาการ 30 นาที และแม้จะลดขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมในตอนแรก แต่หลังฉีดเสร็จยังต้องลงทะเบียนในแอป หรือ ไลน์หมอพร้อม เพื่อกรอกข้อมูลเก็บไว้ใช้ในการติดตามผลของวัคซีน นัดหมายฉีดเข็ม 2 และใช้ในการออกใบรับรองว่าได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ส่วนประชาชนที่ไม่มีแอปพลิเคชันหรือเข้าไลน์หมอพร้อมไม่ได้ เจ้าหน้าจะช่วยกรอกข้อมูลลงระบบต่อไป
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต จัดหาวัคซีนฉีดให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความพิเศษและครอบครัว เพราะส่วนใหญ่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เมื่อติดเชื้อก็มีอาการรุนแรง โดยอาจเป็นการนัดหมายฉีดวัคซีนที่บ้านพัก เพื่อลดการเดินทาง ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่จะค่อย ๆ ทยอยดำเนินการ โดยวัคซีนทุกยี่ห้อมีความปลอดภัย ไม่อยากให้ประชาชนพิจารณานานว่าสมควรฉีดหรือไม่ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่า ใครมีความเหมาะสมรับวัคซีนยี่ห้อไหน ชนิดไหน เพราะบางคนอาจแพ้วัคซีนบางตัว แต่ทุก ๆ การฉีดอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ที่ผ่านมาฉีดไปแล้ว 2 ล้านโดส ไม่พบคนเสียชีวิตหรือพิการ และขณะนี้กระจายวัคซีนไปแล้ว 2.5 ล้านโดส เหลืออีก 1 ล้านโดสที่อยู่ระหว่างการรอตรวจสอบเอกสารต้นทาง
ส่วนข้อกังวลผลกระทบจากการฉีด ยืนยันว่า มีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณา และทำงานเป็นอิสระ บางเคสที่สงสัยก็มีการใช้กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ผ่าชันสูตรศพพิสูจน์
ส่วนที่กังวลหากวอล์คอินไปจะได้วัคซีนคนละตัวกับคนที่ลงทะเบียน ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ทุกการพิจารณาฉีดวัคซีนเป็นดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนการจัดหาบุคลากร มาสนับสนุนในการฉีด อาจมีการระดมพยาบาลเกษียณอายุเข้ามาช่วยเหลือเพิ่ม ทำให้การฉีดวัคซีนได้รวดเร็วขึ้น