พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2564
1.ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,983 คน แบ่งเป็น
- จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,328 คน
- จากการคัดกรองเชิงรุก 646 คน
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน 9 คน
2.ยอดผู้ป่วยสะสม 88,907 คน เฉพาะช่วงการระบาดเดือนเมษายน 60,044 คน
3.หายป่วยวันนี้ 2,006 คน ยอดหายป่วยสะสม 59,043 คน
4.ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 29,378 คน
- อาการหนัก 1,226 คน
- ใส่ท่อช่วยหายใจ 401 คน
5.เสียชีวิตเพิ่มเติม 34 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 486 ราย
ผู้เสียชีวิตวันนี้ ถือว่าทำสถิติใหม่ เป็นยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดในประเทศไทย ผู้เสียชีวิตมีอายุระหว่าง 33-93 ปี อยู่ในสมุทรปราการ 13 ราย (ไม่ใช่ยอดเสียชีวิตในวันเดียว แต่เป็นการรวมยอดผู้เสียชีวิตจากหลายวัน) กรุงเทพมหานคร 10 ราย , นครปฐม ปทุมธานี จังหวัดละ 2 ราย , สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบูรณ์ ชลบุรี นครนายก สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย
ปัจจัยเสี่ยงยังอยู่ที่การติดเชื้อในครอบครัว ติดเชื้อจากเพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน ผู้ดูแล มีการรวมกลุ่มกัน ทำงานพื้นที่เสี่ยงหรือมีอาชีพเสี่ยง เช่น อยู่ในตลาด และขับแท็กซี่ ซึ่งที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีการหารือเกี่ยวกับกลุ่มเสี่ยงที่ให้บริการสาธารณะ อย่างผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ซึ่งจะมีแนวทางช่วยเหลือต่อไป
นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตที่มีภาวะโรคอ้วน และโรคปอดเรื้อรัง ที่จะเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิต รวมทั้งการสูบบุหรี่ ทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้า จะเพิ่มความเสี่ยงทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 14 เท่า
ที่ประชุมยังมีการเปรียบเทียบลักษณะของผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในไทย 3 ระลอก คือ
-ระลอกแรก มกราคม-14 ธันวาคม 2563
-ระลอกสอง 15 ธันวาคม 2563-มีนาคม 2564
-ระลอกสาม 1 เมษายน 2564-ปัจจุบัน
จากการตรวจสอบ พบว่า ปัจจัยเสี่ยงสำคัญอันดับ 1 ของทั้งสามระลอก คือ อายุเกิน 60 ปี มีโรคเรื้อรัง มีภาวะอ้วน จึงมีการจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงนี้เป็นกลุ่มแรกๆ นอกจากนี้ ยังพบว่า ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มป่วยจนเข้ารับการรักษา พบว่าเข้ารับการรักษาช้า กว่าจะมาพบแพทย์ก็ป่วยหนักแล้ว และอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยหนักมากขึ้น ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ขอให้ผู้ที่มีความเสี่ยงรีบพบแพทย์ เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด