*กมธ.ต่างประเทศเชิญอุปทูตสหรัฐชี้แจงอีก ระบุสหรัฐอย่าแทรกแซงกิจการภายในของไทย*

29 มกราคม 2558, 12:44น.


การปาฐกถานาย แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ  วิจารณ์การถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเรียกร้องให้ไทยยกเลิกกฎอัยการศึก  นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ  ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือ สนช.  แถลงว่า กมธ.รู้สึกไม่พอใจและเป็นห่วงกับท่าทีของผู้แทนสหรัฐฯ  ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การปาฐกถาเชิงแทรกแซงการเมืองไทยนั้น อาจส่งผลกระทบด้านความสันพันธ์ ระหว่างประเทศ มองว่าขณะนี้สหรัฐฯกำลังพยายามดำเนินนโยบายการทูตเชิงเดี่ยวที่มองแต่ความคิดของตัวเอง ก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศอื่น ทั้งที่สหรัฐฯควรคำนึงถึงความสัมพันธ์เชิงมิตรของทั้งสองประเทศและความสัมพันธ์ทางประชาคมโลกมากกว่า ไม่ควรเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง สหรัฐฯควรเข้าใจถึงสถานการณ์ในประเทศไทยปัจจุบันที่เป็นช่วงการปฎิรูปที่จะต้องมีการดำเนินการต่างๆที่ผิดปกติเพื่อเตรียมไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในอนาคต และควรคำนึงถึงมิตรไมตรีระหว่างกันมากกว่า



ส่วนการถอดถอนนางสาว ยิ่งลักษณ์ คณะกรรมาธิการ ยืนยันว่า เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ทางกฎหมายที่บัญญัติไว้ และกระบวนการถอดถอนมีมาในหลายรัฐบาลแล้ว  ขณะเดียวกันสนช.ก็มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยชั่วคราว พ.ศ. 2557 ในการถอดถอน การที่นาย แดเนียล.แสดงความเห็นเชิงไม่เห็นด้วย คณะกรรมาธิการก็รู้สึกผิดหวังที่นาย แดเนียล ไม่เข้าใจและไม่ได้ศึกษาถึงกระบวนการทางกฎหมายของไทยที่ให้โอกาสคู่กรณีกล่าวโต้แย้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนกฎหมาย ยืนยันว่า นางสาว ยิ่งลักษณ์ มีความผิดในการไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซี่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นงบประมาณหลายแสนล้านบาทต่อประเทศ จึงต้องดำเนินไปตามขั้นตอน ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใดๆ



ส่วนกฎอัยการศึกที่ยังใช้อยู่ ก็เป็นเหตุความจำเป็นของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่อาจมองว่าต้องคงไว้เพื่อความสงบ และเป็นเรื่องในประเทศที่สหรัฐฯไม่ควรแทรกแซง อีกทั้งกฎบัตรสหประชาชาติก็ระบุอย่างชัดเจนว่า ประเทศที่เป็นสมาชิกขององค์กรไม่อาจแทรกแซงกิจการภายในของแต่ละประเทศได้ด้วย   นอกจากนั้น คณะกรรมาธิการได้ส่งหนังสือเชิญอุปทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบกลับมาว่าจะเข้ามาชี้แจงภายในช่วงใด

ข่าวทั้งหมด

X