ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ เวลา 19.30 น.ประจำวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ เวลา 19.30 น.ประจำวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564  

จิตอาสา904- กองบัญชาการกองทัพไทย เตรียมความพร้อมเตียงกระดาษ รพ.บุษราคัม

         จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของประเทศ พลตรี ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 11-13 พฤษภาคม 2564 จิตอาสา 904 และจิตอาสาประชาชนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล พร้อมด้วยหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ จัดกำลังพลหมุนเวียนเพื่อเตรียมพื้นที่และความพร้อมต่างๆ ได้แก่ การประกอบเตียงกระดาษ การปูเตียงและจัดที่นอนให้แก่โรงพยาบาลสนามบุษราคัม ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อให้สามารถเปิดใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 สำหรับการดูแลผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวและสีเหลือง ซึ่งจะสามารถช่วยลดความคับคั่งของผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะส่งผลให้โรงพยาบาลต่างๆ มีพื้นที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีแดงที่มีอาการหนักเพิ่มมากขึ้น โดยโรงพยาบาลสนามบุษราคัมสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 1,092 เตียง แบ่งเป็น โซน A จำนวน 270 เตียง โซน B จำนวน 242 เตียง โซน C จำนวน 290 เตียง และโซน D จำนวน 290 เตียง

ผู้ว่าฯลำปาง ส่งอสม.ทำความเข้าใจ-ตอบคำถาม ทำให้ประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีนจำนวนมาก         

          สถานการณ์คนรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางให้สัมภาษณ์พิเศษกับจส.100 ว่า ประชาชนในจังหวัดลำปางมีประมาณ 740,000คน  แบ่งเป็นคนสูงอายุ 180,000 คน รวมมีผู้ป่วยติดเตียง+ คนป่วย 7โรค คิดเป็นร้อยละ 3 ลงทะเบียนกันเกินเป้าหมาย ประชาชนมีการตื่นตัว เพราะจังหวัดกำหนดทิศทาง เพราะว่าในการฉีดวัคซีนต้องมีศักยภาพในการฉีดด้วย

          โดยผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ช่วยกันลงทะเบียนหมอพร้อมดีมาก เพราะว่าจังหวัดนำทีมสาธารณสุข ที่เป็น อสม.ลงพื้นที่เข้าไปทำความเข้าใจ รับลงทะเบียนกับประชาชนถึงที่ ไขข้อสงสัยต่างๆฉีดแล้วจะแพ้มั้ย มีคลิปตัวอย่างที่ อ.งาว มาให้คนในจังหวัดดู  ใครที่ลงผ่านแอปก็ลงทะเบียนเองได้ ต้องคิดว่าสิทธิ์ที่ประชาชนทุกคนที่ได้รับวัคซีนต้องได้ทุกคน ปรับให้ประชาชนสามารถไปฉีดวัคซีนได้ทุกรพ.ไม่ว่าจะเป็น รพ.โรคมะเร็ง + รพ.ค่ายทหาร + รพ.เอกชนหรือรพ.ที่ดูแลเรื่องกระดูก คาดว่าใน 2-3 เดือนข้างหน้าสถานการณ์ยังไม่แน่นอน ถ้าเราต้องการฉีด แต่ไม่มีวัคซีนฉีดก็ลำบากอยู่ดี  ตอนนี้มีวัคซีนมาแล้ว ก็ควรจะฉีด การลงทะเบียนเป็นการให้จองสิทธิ์ไว้ ถ้าเราทิ้งสิทธิ์ไป กว่าจะได้อีกทีไม่รู้ว่าได้อีกทีเมื่อไหร่

          ขณะนี้ จังหวัดฉีดได้เฉลี่ย 5,000 คนต่อวัน หรือพยายามทำให้ได้มากกว่านั้น แพทย์-บุคลากร ทำงานต่อเดือน 22-23วัน จะฉีดได้ ประมาณ 1.2 แสนคน หากเพิ่มวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะได้ประมาณ 1.8 แสนคน

         สำหรับการได้ฉีดวัคซีน ผู้ว่าฯจ.ลำปาง มองว่า เหมือนคุณถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ถ้าไม่ฉีดแล้วยังระบาดรุนแรงขึ้นมา การจองสิทธิ์ก็เหมือนถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ไปแล้ว คนที่ไม่ฉีดก็มีโอกาสได้รับเชื้อมากกว่า เพราะว่าการมีวัคซีนกับตัวเองจะเป็นตัวป้องกันกับคนที่เรารักได้ด้วย

12 วัน การทำงานของศูนย์แรกรับฯ ที่อาคารนิมิบุตร ส่งต่อผู้ป่วยไปรพ.แล้ว 690 คน

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุผ่านทางเฟซบุ๊ก ถึงการทำงานของศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19  ของกระทรวงสาธารณสุข บริเวณอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติว่าตั้งแต่เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 ถึงวันที่ 10 พ.ค.64 ศูนย์แรกรับและส่งต่อฯ ของกระทรวงสาธารณสุข ได้รับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 690 คน เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล โดยมีแพทย์ พยาบาล ให้การดูแลรักษา ศูนย์แรกรับและส่งต่อนิมิบุตร เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยซึ่งไม่มีโรงพยาบาลรับรักษา ได้เข้าถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ได้รับการรักษาและลดอัตราการป่วยหนัก การเสียชีวิต

        ผู้ป่วยที่ยังหาเตียงไม่ได้ ยังไม่มีโรงพยาบาลดูแลรักษา ติดต่อ โทร.1668 หรือ โทร.1669

โควิด-19 สมุทรปราการ หญิงวัย 69 ปี เสียชีวิต สัมผัสผู้ป่วยในครอบครัว

          สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จ.สมุทรปราการ ข้อมูลเวลา 13.00 น.วันที่ 11 พ.ค.64 การระบาดระลอกเดือนเม.ย.64

-เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 69 ปี ประวัติเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยยืนยันในครอบครัว ที่อยู่ขณะป่วย กรุงเทพ

-ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 70 คน

-ในพื้นที่ จำนวน 43 คน

-อ.เมือง 25 คน

-อ.พระประแดง 12 คน

-อ.บางพลี 3 คน

-อ.พระสมุทรเจดีย์ 2 คน

-อ.บางบ่อ 1 คน

-รับมารักษาต่อในจังหวัดสมุทรปราการ 27 คน

-ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,310 คน

สมุทรสาคร-กองทัพเรือเสริมกำลัง ตั้งจุดตรวจท่าเทียบเรือ-ตรวจสอบแรงงานเรือประมง สกัดโควิด

          การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ล่าสุด ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรสาคร (ศรชล.จว.สมุทรสาคร) และ ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสมุทรสาครปฏิบัติการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนี้

1. ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยกำลังสารวัตรทหารเรือจากฐานทัพเรือสัตหีบ และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ จำนวน 3 จุด คัดกรองคนเข้าออกท่าเรือ และประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือในการติดตั้ง APP หมอชนะ จำนวน 2,734 คน

2. กำลังสารวัตรทหารเรือจากฐานทัพเรือสัตหีบ และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ สนับสนุนการเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบ สกัดกั้น แรงงานภาคเรือประมงที่อนุญาตให้ออกทำการประมง แล้วกลับเข้าเทียบพื้นที่ท่าเทียบเรือ 16 ท่าเรือ ในจังหวัดสมุทรสาคร ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพื่อป้องกันการติดเชื้อฯ จากบกสู่กลุ่มแรงงานภาคประมงทะเล จำนวนรวม 23 ลำ

ชาวออสซี่ 3 ใน 4 สนับสนุนให้บังคับฉีดวัคซีนโควิด-19

          ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยมหาวิทยาลัย 2 แห่งของออสเตรเลียพบว่า ประชาชน 3 ใน 4 หรือ 73% พร้อมสนับสนุนการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อให้สามารถออกไปทำงาน เรียนหนังสือ และท่องเที่ยวได้ตามปกติ ผลการสำรวจซึ่งจัดทำโดยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลีย (UWA) และมหาวิทยาลัยซิดนีย์ได้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ โดยสอบถามประชาชน 1,200 คน และพบว่า ผู้คนจำนวนมากสนับสนุนการบังคับฉีดวัคซีน เมื่อเทียบกับประชาชน 66% ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยสมัครใจ

          นอกจากนี้ ประชาชน 25% ยอมรับว่า พวกเขาไม่มั่นใจว่าจะฉีดวัคซีนดีหรือไม่ ขณะที่ 70% มีความกังวลว่า วัคซีนถูกพัฒนาเร็วเกินไป และมีเพียง 9% ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ผู้สูงอายุและผู้ที่ร่ำรวยมีแนวโน้มที่จะยินดีฉีดวัคซีนกันมากขึ้น

          ผลการสำรวจยังชี้ว่า ผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้กับพรรคการเมืองใหญ่มีแนวโน้มที่จะฉีดวัคซีนมากกว่าผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้กับพรรคเล็กอย่างมีนัยสำคัญ

ภาวะเงินเฟ้อสหรัฐฯ กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก นิกเกอิปิดต่ำสุดในรอบ กว่า 2 เดือน

          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,578.93 จุด ลดลง 9.22 จุด มูลค่าการซื้อขาย 102,357.93 ล้านบาท  ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย และตลาดยุโรปต่างปรับลงถ้วนหน้า จับตาเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าอาจเร่งตัวขึ้นมาที่ 3.6% จากเดือนก่อน 2.6% ทำให้เกิดความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน จึงหันมาขายสินทรัพย์เสี่ยง เห็นได้จากดัชนี Nasdaq ร่วงแรงจากแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดวันนี้ดิ่งลงกว่า 3% โดยร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ดิ่งลงตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ และปรับตัวลงตามตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ ด้วย ปิดตลาดที่ระดับ 28,608.59 จุด ร่วงลง 909.75 จุด

           ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลดลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อได้ผลักดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปิดวันนี้ที่ 28,013.81 จุด ลดลง 581.85 จุด

โครงการก่อสร้างในสิงคโปร์จะล่าช้า หลังขาดแคลนแรงงานเพราะโควิด-19

          เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยว่า บริษัทในภาคการก่อสร้าง, ภาคการขนส่งทางทะเล และภาคการผลิต จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวดมากขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่เศรษฐกิจสิงคโปร์กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างชาติ เนื่องจากการอนุมัติการเดินทางเข้าประเทศเป็นไปอย่างล่าช้า นายลอเรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติของสิงคโปร์ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กล่าวในรัฐสภาว่า โครงการก่อสร้างใหม่ๆ จำนวนมากจะล่าช้าออกไปอีก 1 ปีหรือมากกว่านั้น รวมทั้ง บริษัทใดก็ตามที่ต้องการนำเข้าแรงงานต่างชาติจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงจะเผชิญกับความล่าช้าอย่างมาก และเวลารอการอนุมัติการเข้าประเทศอาจจะนานกว่า 6 เดือน โดยข้อจำกัดใหม่นี้จะใช้กับทุกประเทศและภูมิภาคของโลกที่มีความเสี่ยงสูง ยกเว้นออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, บรูไน, จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง และมาเก๊า

          ทั้งนี้ นายหว่องกล่าวว่า ขณะนี้ อยู่ช่วงวลาที่คับขัน ยอดผู้ติดเชื้อภายในชุมชนอาจเป็นไปในทางใดทางหนึ่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ข้อกังวลหลักของเราคือ หากบริษัทต่างๆ ยังคงเผชิญกับความยากลำบากหรือถูกบังคับให้ปิดกิจการ ชาวสิงคโปร์อาจตกงานและว่างงานมากขึ้น"

อดีตป.ป.ช. ชี้ คดีธรรมนัส ทำลายเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ

          นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โพสต์เฟสบุ๊กถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ต้องพ้นสถานะรัฐมนตรี กรณีต้องคำพิพากษาจำคุกคดียาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลียว่า แม้ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ถูกร้องเคยต้องคำพิพากษาศาลออสเตรเลียถึงที่สุดว่า ได้กระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ก่อนสมัครรับเลือกตั้งส.ส. แต่มิใช่คำพิพากษาของศาลไทย ผู้ถูกร้องจึงไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(10) จึงเกิดข้อถกเถียงทางวิชาการว่า แนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวถูกต้องตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญปี2560หรือไม่

          หากศึกษารายละเอียดในคำปรารภรัฐธรรมนูญปี2560 จะปรากฏข้อความตอนหนึ่งว่า “เพื่อมิให้ผู้บริหารที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลเข้ามามีอำนาจปกครองบ้านเมือง หรือใช้อำนาจตามอำเภอใจ” เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญจึงเป็นที่แน่ชัดว่า ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบและขจัดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีปัญหาด้านคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล มิให้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง อันเป็นปัญหาร้ายแรงที่สุดตลอดมาในการปกครองบ้านเมือง ปัญหาด้านจริยธรรมของผู้บริหารที่ขาดความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน แต่ไม่ยอมออกจากตำแหน่ง โดยอ้างประชาชนเป็นผู้เลือกให้ทำหน้าที่ ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธา ล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน 

          นายวิชา ระบุว่า การตีความโดยเคร่งครัดตามลายลักษณ์อักษรของศาลรัฐธรรมนูญ จึงกระทบกระเทือนต่อภารกิจอันสำคัญยิ่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องเป็นผู้คุ้มครองป้องกันและรักษาไว้ซึ่งเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ตามหลักรัฐธรรมนูญนิยม  และก่อให้เกิดผลในทางที่ไม่น่าจะเป็น หรือผลประหลาด หรือผลอันไม่คาดคิด ดังเช่นคดีนี้ย่อมสร้างความประหลาดใจแก่รัฐต่างประเทศว่า บุคคลซึ่งกระทำผิดและถูกตัดสินโดยศาลต่างประเทศ ย่อมเดินทางกลับมาเป็นผู้ปกครองประเทศ หรือบริหารราชการแผ่นดินไทยได้ทั้งสิ้น ก่อให้เกิดมาตรฐานจริยธรรมที่แตกต่างกับลักษณะสากลอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่11 และคณะที่13 เคยประชุมร่วมกันและมีความเห็นตามบันทึกกฤษฎีกาที่ 127/2563ว่า กรณีที่ใช้ผลของคำพิพากษาของศาลต่างประเทศมารับฟังเป็นพยานหลักฐานในฐานะข้อเท็จจริง มิใช่มาบังคับโทษในประเทศไทย ย่อมเป็นสิ่งที่กระทำได้

ศาลให้ประกันเพนกวิน-แอมมี่ ส่วนไมค์เลื่อนไต่สวน พบใกล้ชิด อานนท์

        หลังการไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยที่ 1, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ จำเลยที่ 6 แกนนำกลุ่มราษฎร และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบูลส์ จำเลยที่ 17 ศิลปินกลุ่มราษฎร กรณีถูกขังไม่ได้ประกันตัวในคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร หมายเลขดำ อ.287/2564 (เฉพาะในส่วนของนายไชยอมรถูกขังไม่ได้การประกันตัวจากคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์)

          หลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลพักการพิจารณา เป็นเวลายาวนานกว่า 3 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 18.20 น. ศาลสั่งอนุญาตให้ประกันตัว นายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 และนายไชยอมร จำเลยที่ 17 พร้อมเงื่อนไขห้ามกระทำการเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ห้ามออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ให้มาศาลตามกำหนดนัด พร้อมแต่งตั้งผู้กำกับดูแลจำเลยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข 

          ส่วนนายภาณุพงศ์ จำเลยที่ 6 ศาลให้เลื่อนการไต่สวนออกไปก่อน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์แจ้งการตรวจไวรัสโควิด-19 ของจำเลยที่ 6 ไม่พบเชื้อ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2564 ซึ่งจำเลยที่ 6 มีประวัติสัมผัสกับนายอานนท์ นำภา จำเลยที่ 2 ที่ยืนยันการติดเชื้อ จึงต้องรอผลตรวจของจำเลยที่ 6 อีกครั้ง ให้ราชทัณฑ์รายงานผลตรวจให้ศาลทราบ

เกิดเหตุกราดยิงในรร.ชานกรุงมอสโกว์ ตาย 11

   ประธานาธิบดี รุสตาม มินนิคานอฟ  แห่งสาธารณรัฐตาตาร์สถาน เขตปกครองตนเองของรัสเซีย เปิดเผยว่า เกิดเหตุคนร้ายสองคนบุกกราดยิงคนในโรงเรียนหมายเลข 175 ในเมืองคาซาน เมืองเอกของสาธารณรัฐตาตาร์สถานในวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 11 ราย แบ่งเป็น เหยื่อนักเรียน 9 ราย ครู 1 ราย และ 1 ในคนร้ายที่ถูกตำรวจทำวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ และมีผู้บาดเจ็บ 16 คนคือ นักเรียน 12 คนและผู้ใหญ่อีก 4 คนถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง

          ส่วนคนร้ายรายที่สอง อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บระหว่างการปะทะกับตำรวจ และถูกจับกุมได้ด้านนอกของโรงเรียน ขณะพยายามหลบหนี เบื้องต้นตำรวจพบว่าคนร้ายมีใบอนุญาตปืนอย่างถูกต้อง จะสอบสวนเรื่องสาเหตุการก่อเหตุต่อไป ภาพคลิปวดีโอที่มีการส่งต่อๆกันในสื่อสังคมออนไลน์ของรัสเซีย แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาวุธครบมือและรถของตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษจอดอยู่ที่ด้านนอกของโรงเรียนและภาพวินาที ขณะนักเรียนบางคนกระโดดลงทางหน้าต่างของโรงเรียนในช่วงเกิดเหตุ ทำให้นักเรียนกลุ่มนี้บาดเจ็บเช่นกัน

          สำหรับสาธารณรัฐตาตาร์สถานมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม

ขู่วางระเบิด ศาลฎีกาโปแลนด์อพยพประชาชน

          ศาลฎีกาของโปแลนด์ได้สั่งอพยพประชาชนที่อยู่ในอาคารหลังถูกขู่วางระเบิดในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่แผนกคดีแพ่งมีกำหนดออกคำแนะนำเกี่ยวกับการจำนองสกุลเงินฟรังก์สวิส ศาลฎีกาเปิดเผยข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า "จากข้อมูลที่ได้รับทางอีเมลระบุว่า มีการวางระเบิดในอาคาร ประธานศาลฎีกาจึงสั่งอพยพประชาชนออกจากอาคาร"  นอกจากนี้ ศาลฎีกาของโปแลนด์ยังระบุด้วยว่า จะมีการตรวจค้นพื้นที่เพื่อความปลอดภัยไปจนถึงเวลา 10.30 GMT หรือราว 17.30 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้