ครม.ชู'วัคซีนแห่งชาติ'นายกฯชื่นชมลำปาง มีคนฉีดวัคซีนสูงสุด

11 พฤษภาคม 2564, 13:59น.


          สถานการณ์โควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ว่า พื้นที่คลองเตยที่ได้ติดตามมาอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบกับชีวิตความปลอดภัยของประชาชนจำนวนมาก ในฐานะ ผอ.ศบค กรุงเทพ-ปริมณฑล สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลัง มียุทธวิธีสำคัญในการเอาชนะศึกครั้งนี้คือการระดมตรวจเชิงรุกในพื้นที่เป้าหมายตั้งแต่ 1 พ.ค. ใน กทม.และปริมณฑล ตรวจเชิงรุกแล้วมากกว่า 7 หมื่นรายหรือ 7,000 รายต่อวัน ทำให้ระบุตัวผู้ติดเชื้อและคัดแยกผู้ป่วยไปรักษาได้ทัน เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดให้แคบและสั้นที่สุด ดังนั้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เห็นยอดผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทีมแพทย์เชื่อมั่นว่าด้วยวิธีนี้จะทำให้เราควบคุมสถานการณ์ได้ในไม่ช้า และยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่จะค่อยๆลดลง ล่าสุดใน กทม.มีจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มทรงตัว แต่เรายังไม่นิ่งนอนใจ ยังระดมตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงต่อไปให้ได้มากที่สุด



          ขณะที่การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ได้ฉีดวัคซีนในพื้นที่คลองเตยแล้ว 13,000 คน หรือ ร้อยละ 30 จากเป้าหมายที่วางไว้ว่าต้องฉีดให้ได้มากกว่า 50,000 คน ส่วนในพื้นที่ปทุมวันที่อยู่ใกล้เคียง ฉีดวัคซีนแล้ว 14,000 คนหรือมากกว่า ร้อยละ 50 ของเป้าหมายที่วางไว้ โดยสรุปแล้วทั้ง 2 เขต ฉีดได้มากกว่าวันละ 2,000 คน โดยผลการดำเนินการของคลัสเตอร์คลองเตยจะเป็นแนวทางการจัดการการระบาดในพื้นที่อื่นต่อไป



          สำหรับการรักษาพยาบาล นายกรัฐมนตรี  ระบุ รัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลค่ารักษาพยาบาลออกค่าใช้จ่ายให้ประชาชนทุกคนตามสิทธิ์ ตั้งแต่การตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง การรับวัคซีน การชดเชยกรณีได้รับผลข้างเคียง และการรักษาพยาบาล กรณีโรงพยาบาลเอกชน รัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ร้อยละ 25 ทุกรายการ หากมีประกันส่วนบุคคล ให้โรงพยาบาลเรียกเก็บประกันส่วนบุคคลก่อน ที่เหลือให้เรียกเก็บกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยห้ามเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน หากฝ่าฝืนจะมีโทษทางกฎหมาย



          กรณีที่เกิดความเสียหาย บาดเจ็บ เจ็บป่วยต่อเนื่อง เสียอวัยวะ พิการ ทุพพลภาพถาวร หรือเสียชีวิต สามารถยื่นขอเงินเยียวยาได้จาก สปสช. นอกจากนี้ยังได้ทำกรมธรรม์ประกันภัยให้บุคลากรทางการแพทย์ 270,000 ราย ซึ่งเสียสละ เสี่ยงภัย ทำงานหนักในขณะนี้ วงเงินคุ้มครองมากกว่า 270,000 ล้านบาท หรือรายละ 1 ล้านบาทแล้วแต่กรณี



          สำคัญที่สุด ต้องขอร้องให้ทุกท่านต้องระมัดระวังตัวเองอย่างที่สุด เรายังไม่พ้นจากการแพร่ระบาดระลอกนี้ ขอให้ป้องกันตัวเองเต็มที่  อยากให้ทุกคนรวมถึงสื่อมวลชน มีส่วนร่วมในการช่วยชาติ ช่วยชุมชนของท่าน ก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ ขอให้คำนึงถึงผลกระทบจากการแชร์ข่าวสารที่ไม่รู้ที่มา อาจสร้างความวุ่นวาย สับสนให้กับสังคม ยิ่งกว่านั้นยังมีผู้ที่เจตนาและไม่เจตนา สร้างเฟคนิวส์ ขอให้หยุดการกระทำเหล่านี้ เพราะเป็นการซ้ำเติม เพิ่มความเดือดร้อนและความเสี่ยงให้กับตัวเองและคนรอบข้าง ซึ่งได้สั่งการเจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจสอบ และให้ดำเนินการทันทีหากพบการทำผิดตามกฎหมาย



          ด้านวัคซีน นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ได้เสนอให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ต้องดำเนินการอย่างครบวงจร ทั้งการจัดหา การกระจาย ไปจนถึงการฉีด ที่ต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทย โดยผู้เชี่ยวชาญต่างยืนยันว่า วัคซีนโควิดทุกชนิด สามารถป้องกันการป่วยรุนแรงหากติดเชื้อและป้องกันการเสียชีวิตได้เกือบ 100% สำหรับโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีนมีน้อยมาก หากเปรียบเทียบกับโอกาสในการติดโควิด และการเสียชีวิตจากโควิดมีสูงกว่าการฉีดแล้วเกิดผลข้างเคียงหลายพันเท่า ดังนั้นฉีดดีกว่าไม่ฉีด  



          ล่าสุดจากการเปิดลงทะเบียนยืนยันและนัดหมายการฉีดวัคซีน ผ่านระบบหมอพร้อม สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 1.6 ล้านคน สูงสุดใน กทม. กว่า 5 แสนคน ตามด้วยลำปาง มากกว่า 2 แสนคน แต่หากนับตามสัดส่วนประชากร ถือว่าลำปางมีสัดส่วนสูงสุดในประเทศที่ตื่นตัวกับเรื่องนี้ ขอชื่นชมจังหวัดลำปาง และขอให้ทุกจังหวัดเร่งเรื่องนี้ให้มีผู้มาขอรับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดด้วยกลไกในพื้นที่ ส่วนรัฐบาลจะพิจารณาจัดสรรวัคซีนลงไปเพิ่มเติมให้



          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ เราคนไทยทั้งประเทศและทั่วโลก กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวร้ายที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อนที่ชื่อไวรัสโควิด ทางเดียวที่จะเอาชนะได้ คือการร่วมแรงร่วมใจ ร่วมมือกันแก้ปัญหา ไม่ใช่การขัดแย้งหรือแตกแยกกัน อนาคตของประเทศไทยต่อจากนี้ จะขับเคลื่อนไปได้มั่นคงเพียงใด ขึ้นอยู่กับเราทุกคน ที่จะต้องรวมใจให้เป็นหนึ่งเดียว แล้วก้าวเดินไปพร้อมกัน วันนี้ไม่ใช่เวลาทำการเมืองทั้งสิ้น เป็นเวลาที่ทำให้บ้านเมือง ให้ประเทศและประชาชนของท่าน อันเป็นที่รักและเลือกท่านมาทำงาน นั่นคือหน้าที่ของรัฐบาลในเวลานี้ ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมแก้ปัญหากับเรามาโดยตลอด อะไรที่ยังมีปัญหาขัดข้องไม่เข้าใจขอให้สอบถามมา ยินดีที่จะให้หน่วยงานเขาตอบปัญหาต่อไป



 

ข่าวทั้งหมด

X