*แถลงโต้สหรัฐวันนี้/แรงงานร้องนายกฯ ประกันสังคมตัดสิทธิ์ลาออก/ตรวจรีสอร์ทสวนผึ้ง*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

+++วันนี้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงแสดงจุดยืนกรณีนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แสดงท่าทีแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย เวลา 11.30 น. โดยเฉพาะการลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง ที่อาคารรัฐสภา

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รู้สึกเสียใจที่สหรัฐไม่เข้าใจการทำงานของเรา ซึ่งเราเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดมานาน เราก็ไม่เคยตอบโต้อะไรเลย จึงให้กระทรวงต่างประเทศไปชี้แจงทำความเข้าใจถึงการแก้ปัญหา ส่วนการอนุญาตให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกนอกประเทศ ว่า ขณะนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้ขออนุญาตเดินทางไปต่างประเทศ แต่หากขอมาก็ต้องถามศาลว่า ไปได้หรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับศาล หากศาลบอกว่าห้ามออกนอกประเทศก็ไม่ให้ออก

+++ส่วนคนที่ออกมาข่มขู่ว่า จะเกิดความรุนแรงก็จะเรียกมาพูดคุย หากออกมาพูดอีกตนก็จะใช้อำนาจห้ามเดินทางออกต่างประเทศ ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินทอง ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก รวมถึงนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะเรียกทุกคน ใครพูดอีกก็จะเรียกหมด ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนายกฯ ตนให้เกียรติเขาเสมอ ทุกคนก็ควรให้เกียรติด้วย

+++จากนั้น คสช.ได้มีคำสั่งเรียกตัว นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เข้ารายงานตัวต่อ คสช. หลังจากได้วิพากษ์วิจารณ์และโจมตีรัฐบาล กรณี สนช.ลงมติถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ รวมถึงการให้สัมภาษณ์หลังนายแดเนียล เข้าพบนางสาวยิ่งลักษณ์ ด้านนายสุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุจะเรียกตัวไปรายงานตัวว่า ได้ทราบข่าวบ้างแล้ว แต่ยังไม่เห็นหนังสือเชิญ แต่หากมีหนังสือเมื่อไหร่พร้อมไปพบเมื่อนั้น เพราะสิ่งที่ตนพูดเป็นการอธิบายในสิ่งที่นายแดเนียล รู้สึกกับประเทศไทย

+++ก่อนหน้านี้  นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ ได้เชิญนายแพทริค เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบหารือที่กระทรวงการต่างประเทศ นานกว่า 2 ชั่วโมง  เพื่อชี้แจงความกังวลนี้ระคนกับความผิดหวัง อีกทั้งเป็นเสียงสะท้อนว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเกิดบาดแผลขึ้นในใจ เป็นบาดแผลในใจจากการเยือน จึงอยากให้รับทราบเรื่องเหล่านี้ คราวหน้าจะได้หาทางเยียวยาไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก แต่ไม่ได้เชิญมาประท้วง เราไม่ได้แข็งกร้าว แต่มีเหตุผล ประเทศไทยมีวุฒิภาวะไม่ได้เป็นประเทศเพิ่งเกิดใหม่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก มีการรัฐประหารหลายครั้ง ซึ่งเป็นช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวาย"ส่วนการถอดถอน"ยิ่งลักษณ์"เป็นไปตามก.ม.  เพราะถ้าติดตามเรื่องของประเทศไทย ก็จะเห็นว่ามีกระบวนการมาตั้งแต่ต้น เป็นเรื่องของกฎหมายล้วนๆ เป็นการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดในหลายเรื่อง เป็นผลให้เกิดความเสียหาย จึงทำให้กระบวนการทางกฎหมายต้องเข้ามา ดังนั้นถ้าพูดว่าการเมืองเป็นตัวกำหนด ก็แสดงว่าเจ้าหน้าที่จัดเตรียมข้อมูลให้กับเขา ไม่ได้เข้าใจประเทศไทยหรือเหตุการณ์ในบ้านเราในช่วงปีที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจนเพียงพอ จึงต้องให้เขารับรู้ว่าเรื่องนี้มีความลึกซึ้งมากกว่านั้น อีกทั้งการรัฐประหารในประเทศไทย ไม่เหมือนกันประเทศ อื่นๆ ในโลก  "สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐพูดออกมาอย่างเป็นทางการ ถ้าไปเชื่อทุกเรื่องราว ก็จะมีผล ทำให้เกิดปัญหา เพราะหลายเรื่องที่พูดเรื่องการเมือง ก็ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง

++++ภารกิจวันนี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหารือแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรด้านต่างๆ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบไป

+++พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม และกรมการขนส่งทางบก เชิญผู้เกี่ยวข้อง และตัวแทนรถแท็กซี่มาหารือถึง 3 ข้อเสนอที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ขนาดใหญ่เรียกร้องให้ปรับค่าธรรมเนียมการใช้บริการในสนามบินจากเที่ยวละ 50 บาท เป็น 100 บาท การจัดเก็บค่าสัมภาระสำหรับผู้โดยสารที่มีจำนวนมาก และการคิดค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายในเส้นทางระยะไกล  

++++ขณะที่ นายประพนธ์ ปัทมกิจสกุล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ลงโทษโดยการยกเลิกรหัสของ จ่าสิบเอกอุดร ศาสนะสุพินธ์ และห้ามเข้ามาให้บริการรับผู้โดยสารที่ ทสภ. ตลอดไป ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ส่วนในวันนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้เรียก จ่าสิบเอกอุดร มาปรับ ตามความผิด เก็บค่าโดยสารเกินราคากำหนด นอกจากนั้น ได้มีมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการแท็กซี่ไม่เปิดมิเตอร์หรือเรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายเกินราคาที่กฏหมายกำหนด โดย ทสภ. ได้มีการตั้งจุดตรวจรถแท็กซี่ทุกคันที่รับผู้โดยสาร ณ บริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 8 รถแท็กซี่ทุกคันที่รับผู้โดยสารขึ้นรถแล้ว จะต้องทำการเปิดมิเตอร์ในการให้บริการทุกครั้ง และ Slip ตั๋วโดยสารจะต้องอยู่กับผู้โดยสาร ห้ามผู้ขับขี่รถแท็กซี่เก็บไปโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตามหากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็น ผู้ขับขี่รถแท็กซี่รายใดมีการกระทำที่ไม่เหมาะสม อาทิ ไม่เปิดมิเตอร์ การพูดจาแสดงอาการไม่สุภาพต่อผู้ใช้บริการ การปฏิเสธผู้โดยสาร หรือกรณีหลงลืมทรัพย์สินไว้บนรถแท็กซี่ สามารถร้องเรียนได้ที่ ฝ่ายบริหารการขนส่ง โทร 0 2132 9199 หรือ โทร. 1722

+++นายปฐวี มีราช คณะทำงานปรับอัตราค่าโดยสารรถแท๊กซี่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยืนยันว่ากลุ่มรถแท๊กซี่ 5 ประตู ไม่ได้มีการขู่หยุดให้บริการตามที่มีข่าว เพียงแต่หากแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหวก็อาจต้องวิ่งให้บริการที่อื่นแทน ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็ยังสามารถหารถแท๊กซี่ใหม่เข้ามาเสริมได้ ซึ่งกลุ่มผู้ให้บริการรถแท๊กซี่ 5 ประตู จึงได้มีข้อเรียกร้อง ทั้งการขอค่าเซอร์ชาร์จเป็น 100บาท การขอค่าธรรมเนียมการขนสัมภาระ และขอให้ปรับค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง หรือหากไม่ต้องการปรับราคา ทั้ง 3กรณีก็ขอให้คิดค่าบริการ เป็นแบบเหมาจ่าย

+++ในวันนี้  น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.).จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และจากนั้นเวลา 11.00 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกันสังคม(ฉบับที่..) พ.ศ. …. ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกันสังคมฯ ตามขั้นตอนตามวาระแรกไปแล้ว และรอการพิจารณาในวาระที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ หลังร่างพรบ.นี้  ตัดสิทธิผู้ประกันตนกรณีลาออกจากงานจากเดิมที่ผู้ประกันตนจะได้รับเงินช่วยเหลือขณะว่างงานจำนวนร้อยละ30ของค่าจ้างไม่เกิน3เดือน โดยที่ไม่มีการสอบถามผู้ประกันตนและส่งผลกระทบ นอกจากนั้น  อยากให้ทบทวนเนื้อหาร่างพ.ร.บ.ประกันสังคมฯ โดยให้สิทธิผู้ประกันตนที่ลาออกจากงานและลาออกจากการเป็นผู้ประกันตนแต่ส่งเงินสมทบไม่ถึง 15 ปีและมีอายุต่ำกว่า 55 ปี สามารถขอรับเงินสิทธิประโยชน์กรณีบำเหน็จชราภาพได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเกณฑ์อายุ 55 ปี เพราะผู้ประกันตนหลายคนที่ลาออกจากงานมีความเดือดร้อน ที่ผ่านมามีกรณีแรงงานเสียชีวิตก่อนอายุครบ 55 ปีและไม่ได้แจ้งระบุทายาทผู้รับเงินต่อสปส.ไว้จึงทำให้เงินตกเป็นของกองทุน

+++วันนี้ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบตร. จะลงพื้นที่ จ.ราชบุรี เพื่อตรวจสอบ กรณี รีสอร์ทสร้างเขื่อนกักน้ำทำให้ประชาชนเดือดร้อน ก่อนหน้านี้      นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์  รองผู้ว่าฯ ราชบุรี นำทีมตรวจรีสอร์ทสวนผึ้ง 2 แห่ง จับ 1 ราย หลังพบสร้างฝายกักน้ำไว้ใช้เอง ใช้พื้นที่เกินกว่าที่ขอเช่ากับกรมธนารักษ์ 18 ไร่ ปรับพื้นที่สร้างสนามกอล์ฟ-สวนน้ำ ขนาดใหญ่อ้างอยู่ระหว่างยื่นเอกสารรอพิจารณา นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรีสอร์ทต่างๆ ในพื้นที่ ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม เป็นต้นมา จำนวน 6 แห่ง ผู้ประกอบการรีสอร์ทถูกจับกุมไปแล้ว 4 แห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 1 แห่ง และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเอกสารว่า ใช้พื้นที่เกินกว่าที่ได้ขออนุญาตเช่าไว้หรือไม่ และจะดำเนินการตรวจสอบ ทุกรีสอร์ทในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง ซึ่งมีมากกว่า 400 แห่ง

+++ตำรวจสงขลา ตามจับ นายเบญจพล สายชนะ อายุ 25 ปี 1ใน 3 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งก่อเหตุสะเดาะกุญแจมือ และถีบประตูรถหลบหนีออกจากรถควบคุม ผู้ต้องหาของ สภ.หาดใหญ่ ระหว่างนำตัวไปฝากขังศาล จ.สงขลา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 57ากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ได้ร่วมกับ นายบุญช่วย แสงสี และ นายการัณ เซ้งเถี้ยน สะเดาะกุญแจมือและช่วยกันถีบประตูรถ ทำร้าย ด.ต.สุรศักดิ์  ชูประจิตต์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่ ก่อนไปกบดานที่ จ.สตูล กับเครือข่ายยาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ยังคงหลบหนี