ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เรียกร้องให้สหรัฐฯยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 และวัตถุดิบสำหรับการผลิตวัคซีน ข้อเรียกร้องในครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯสนับสนุนข้อเรียกร้องของแอฟริกาใต้และอินเดียต่อองค์การการค้าโลกให้ละเว้นการคุ้มครองสิทธิบัตรวัคซีนเป็นการชั่วคราวเพื่อให้ประเทศที่ยากจนกว่าสามารถนำเทคโนโลยีวัคซีนไปผลิตได้เอง เนื่องจากปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้คนทั่วโลกแล้วประมาณ 1,250 ล้านโดส ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่อยู่ใน 29 ประเทศยากจนที่สุดในโลกไม่ถึงร้อยละ 1 ขณะที่ในกลุ่มประเทศร่ำรวยมีการฉีดวัคซีนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากร
โดยในการประชุมผ่านการสื่อสารทางไกลระหว่างนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดียกับผู้นำประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป นายกรัฐมนตรีโมดี กล่าวแสดงความหวังว่าสหภาพยุโรปจะให้การสนับสนุนการละเว้นสิทธิบัตรวัคซีนเป็นการชั่วคราว แต่ประธานาธิบดีมาครง โต้แย้งว่าปัจจัยสำคัญของการคลี่คลายวิกฤตคือการเพิ่มกำลังผลิตในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางและเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศยากจน ทั้งชี้ไปที่สหรัฐฯว่าควรยกเลิกคำสั่งห้ามการส่งออกวัคซีนและวัตถุดิบในการผลิต เพราะจนถึงตอนนี้วัคซีนทั้งหมดที่ผลิตในสหรัฐฯ มีเพื่อตลาดสหรัฐฯเท่านั้น นอกจากนี้สหราชอาณาจักรเองก็มีข้อจำกัดเรื่องการส่งออกเช่นกัน แม้นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน จะชี้แจงว่าไม่มีคำสั่งห้ามการส่งออก แต่สื่อในประเทศรายงานว่า สหราชอาณาจักรไม่มีการส่งออกวัคซีน
....