การเดินหน้าแก้ปัญหาโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวผ่านทาง PM PODCAST "เรื่องการเดินหน้าแก้ปัญหาโควิด-19" โดยระบุว่า ไทยกำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งตนได้สั่งการและออกมาตรการทันที ทั้งการดำเนินการด้านสาธารณสุข และการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยเร่งแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด โดยจะมีการระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในพื้นที่คลองเตยจะมีการตรวจหาเชื้อ 700 คนต่อวันแล้ว ขณะที่การระบาดในคลัสเตอร์อื่นๆ ก็จะเร่งตรวจเชิงรุกให้มากที่สุด
แต่เมื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก เตือนให้เห็นว่าโควิด-19 ไม่น่าจะสามารถแก้ปัญหาได้โดยเร็ว ประเทศไทยจึงต้องเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงได้สั่งการให้จัดหาวัคซีนไว้มากกว่านี้ 150 ล้านโดส เพื่อเตรียมการรับความเสี่ยงในปีหน้าด้วย แต่ต้องคำนึงอายุการใช้งานของวัคซีน และสถานการณ์ในปีหน้าด้วย
รวมถึงเตรียมวัคซีนเข็มที่ 3 ในการป้องกันไวรัสที่กลายพันธุ์ รวมถึงการส่งมอบวัคซีนที่ล่าช้า อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีฐานผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาในประเทศ แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยง จึงได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเจรจาผู้ผลิตวัคซีนอีกหลายราย นอกจาก 7 บริษัทที่ได้พูดคุยไว้ ซึ่งทุกอย่างต้องปฏิบัติตามระเบียบและกฎเกณฑ์การสั่งซื้อวัคซีน ล่าสุดไทยจะได้รับวัคซีนมาอีก 3.5 ล้านโดสเดือนนี้ จากนั้นก็จะปรับแผนการกระจายวัคซีน โดยเร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะทางการแพทย์เชื่อว่า แม้ฉีดเข็มแรกก็ช่วยลดโอกาสรับเชื้อบรรเทาอาการต่างๆ ลงได้ ซึ่งจะเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชน โดยคาดว่าภายในเดือน ก.ค. จะมีประชากรผู้ใหญ่ครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว