นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ วันนี้ (7 พ.ค.64) มีมติสำคัญ 3 เรื่อง คือ
1.เห็นชอบแนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชากรวัยแรงงาน จำนวน 16 ล้านคน โดยสำนักงานประกันสังคมและจังหวัดเป็นผู้รวบรวมจำนวนและรายชื่อแรงงานที่จะรับวัคซีน พร้อมเพิ่มจุดฉีดวัคซีนนอกเหนือจากสถานพยาบาลของรัฐ ในกรุงเทพฯ 82 แห่ง และต่างจังหวัดประมาณ 300 แห่ง
2. เห็นชอบแนวทางในการฉีดวัคซีนของซิโนแวค ให้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากผลการศึกษาของประเทศจีนมีความชัดเจนมากขึ้น โดยจากนี้จะส่งเรื่องให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
3. เห็นชอบให้ออกอนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 เรื่องการเปรียบเทียบปรับกรณีไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เวลาออกนอกเคหสถาน โดยจะอนุโลม ยกเว้น และการลดค่าปรับตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน และแต่งตั้งเจ้าพนักงานตามกฎหมายเพิ่มเติมคือข้าราชการสังกัดกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับค่าปรับที่มีการหารือเบื้องต้น การกระทำผิดครั้งแรกปรับไม่เกิน 1,000 บาท หากมีการกระทำผิดซ้ำจะปรับตั้งแต่ 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 10,000 บาท และถ้ายังมีการกระทำผิดอีกก็จะปรับในหลักหมื่นแต่ไม่เกิน 20,000 บาท สำหรับการจับปรับไม่ได้หวังเงินทองของประชาชน แต่เพื่อเป็นการป้องปรามให้ประชาชนตระหนักถึงสถานการณ์