คณะกรรมาธิการยุโรป องค์กรฝ่ายบริหารของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)เปิดเผยว่า ข้อมูลจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ญี่ปุ่นนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 72 ล้านโดสจากกลุ่มอียู คิดเป็นร้อยละ 40 จากวัคซีนรวม 178 ล้านโดส ที่กลุ่มอียูส่งออกไปยัง 45 ประเทศทั่วโลกในปีนี้ รองลงมาคืออังกฤษนำเข้าวัคซีน 18.5 ล้านโดสและแคนาดา นำเข้าวัคซีน 18.4 ล้านโดสจากกลุ่มอียู
ที่ผ่านมา กลุ่มอียูได้เข้มงวดมากขึ้นในเรื่องการส่งออกวัคซีน หวั่นเกรงว่าวัคซีนจะขาดตลาด มีปริมาณไม่เพียงพอสำหรับฉีดป้องกันโรคให้กับประชาชน โดยกลุ่มอียูกำหนดให้บริษัทผลิตวัคซีนที่จะส่งวัคซีนไปยังตลาดอื่นๆนอกกลุ่มอียูจะต้องขออนุญาตส่งออกวัคซีนก่อนเป็นครั้งๆไป ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรปอนุมัติให้บริษัทวัคซีนในกลุ่มอียูส่งออกวัคซีนไปยังตลาดอื่นๆนอกกลุ่มอียูแล้ว 854 ครั้งในปีนี้ มีเพียงครั้งเดียวที่กลุ่มอียูไม่อนุมัติ
คณะกรรมาธิการยุโรปย้ำว่า หลักเกณฑ์ให้บริษัทขออนุมัติจากคณะกรรมาธิการยุโรปก่อนส่งออกวัคซีน มุ่งเพื่อให้คณะกรรมาธิการทราบข้อมูลปริมาณวัคซีนที่ผลิตและกระจายอยู่ในยุโรปเท่านั้น ไม่ได้มุ่งหมายห้ามส่งออกวัคซีนหรือบังคับตามกฎระเบียบโดยเคร่งครัด
สำหรับเรื่องการกระจายวัคซีนทั่วโลกเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทั่วโลกพยายามจะหาทางออกอยู่ในขณะนี้ โดยรัฐบาลของหลายประเทศเริ่มเสนอแนะทางออกคือ ขอให้เจ้าของสิทธิบัตรวัคซีน ยอมสละสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนา สามารถผลิตวัคซีนมาใช้ป้องกันโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉินโดยไม่ผิดกฎหมาย
Cr: NHK,Japantimes