สิงคโปร์ เผย ผลกระทบ วัคซีนสกัดโควิด-19 แค่ร้อยละ 0.13 ของทั้งหมด มีผลข้างเคียงรุนแรงหลังฉีด

         กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน 2 ยี่ห้อที่สิงคโปร์ใช้ฉีดป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน คือ วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคและจากบริษัทโมเดอร์นาของสหรัฐฯ ระบุว่า ตลอด 3 เดือนที่สิงคโปร์เริ่มโครงการวัคซีนตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 จนถึงวันที่ 18 เมษายนปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้รับรายงานว่า จากจำนวนคนไข้ 2,796 คน มีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนมี 95 คนเกิดผลข้างเคียงรุนแรง ส่วนที่อาการพบบ่อยๆหลังฉีดวัคซีน เช่น ผื่นคัน, ปวดกล้ามเนื้อและวิงเวียนศรีษะ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก หรือกรณีที่ฉีดวัคซีนแล้ว คนไข้มีอาการเจ็บป่วยรุนแรงจนถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสื่อมสมรรถภาพของร่างกายจนถึงขั้นพิการนับเป็นผลข้างเคียงรุนแรงเช่นกัน          

          ตัวเลขกลุ่มที่มีผลข้างเคียงรุนแรงจากการฉีดวัคซีนในสิงคโปร์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.13 ของปริมาณวัคซีนทั้งหมดที่ฉีดแล้วกว่า 2,200,000 โดส แสดงให้เห็นว่าผลข้างเคียงรุนแรงหลังฉีดวัคซีนอยู่ในระดับต่ำมาก ส่วนใหญ่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี โดยผลข้างเคียงส่วนใหญ่เป็นปฎิกิิริยาต่อวัคซีนซึ่งผู้วิจัยวัคซีนคาดการณ์มาตั้งแต่ต้น          

          กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่า ตัวเลขอัตราการแพ้วัคซีนในสิงคโปร์เฉลี่ยอยู่ที่ 1.4 ต่อวัคซีน 100,000 โดส ถือว่าอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยปกติคือระหว่าง 0.5 ถึง 2 โดสในประเทศอื่นๆ

Cr: CNA