FAO ชี้ โควิด-19 ระบาด ส่งผลกระทบวิกฤตอาหารทั่วโลก

         นายฉู ตงหยู ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)เปิดเผยว่า การศึกษาเรื่องภาวะวิกฤตอาหารทั่วโลก ศึกษาโดยกลุ่มสหภาพยุโรป(EU),ร่วมกับ FAO และโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติพบว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ปัญหาสงครามกลางเมืองในบางประเทศเช่นอัฟกานิสถานและเยเมนและภาวะโลกร้อนในปีที่แล้วทำให้ความกังวลของประชาชนเรื่องปัญหาการดำรงชีวิต โดยเฉพาะความกังวลเรื่องภาวะขาดแคลนอาหารเพิ่มสูงสุดในรอบ 5 ปี เสนอแนะให้ทุกประเทศทั่วโลกร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน รวมถึงการจัดหาสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปมอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อน         

          ขณะเดียวกัน ได้เสนอให้ทุกประเทศทั่วโลกหาทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของปัญหาคือ หาวิธีการส่งเสริมภาคเกษตรกรรมของประเทศให้สามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้สูงขึ้น เพิ่มการผลิตสินค้าเกษตรให้มีความหลากหลาย มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งเกิดความยั่งยืนต่อเศรษฐกิจชุมชนในระยะยาว     

          ด้านนายโดมินิก เบอร์กิน ผู้อำนวยการแผนกบรรเทาทุกข์เร่งด่วนของ FAO ระบุว่าโดยเฉพาะปีที่แล้ว เครือข่ายองค์กรการกุศลระหว่างประเทศ 3 แห่งที่จับมือกันแก้ไขปัญหาขาดแคลนอาหารทั่วโลกพบว่า ประชาชน 28 ล้านคนใน 28 ประเทศ ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารในขั้นวิกฤต เช่น สาธารณรัฐคองโกและเยเมนในทวีปแอฟริกาและอัฟกานิสถานในเอเชียใต้ การระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งซ้ำเติมให้ประเทศที่มีปัญหาผลผลิตเกษตกรรมตกต่ำอยู่ก่อนแล้วให้แย่หนักยิ่งขึ้น คาดว่าประชาชน 142 ล้านคนใน 40 ประเทศทั่วโลกจะประสบปัญหาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ราคาสินค้าจะสูงขึ้นในปีนี้

          ปีที่แล้ว ประชาชน 155 ล้านคนใน 55 ประเทศประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 20 ล้านคนเมื่อเทียบกับตัวเลขประชากรที่ประสบปัญหานี้ในปี 2562 ทั้งทีมนักวิจัยประเมินว่าปัญหานี้มีแนวโน้มหนักขึ้นเรื่อยๆในอนาคต       

Cr: AFP