นายกฯประชุมบ่ายนี้ ตรวจเชิงรุก คลัสเตอร์ชุมชนคลองเตย-บ่อนไก่

          สถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 กรณีการติดเชื้อในชุมชนคลองเตย มีรายงานว่าในเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมหารือกลุ่มย่อย ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นัดพิเศษ ที่ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับทราบรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อโควิด การให้บริการวัคซีน โดยจะพิจารณามาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ ที่เสนอโดยศูนย์บริหารสถานการณ์และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด–19 กระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะกรณีคลัสเตอร์ ชุมชนคลองเตย

          ก่อนหน้านี้ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) นำเสนอที่ประชุมถึงการค้นหาเชิงรุกในชุมชนคลองเตย โดยจะมุ่งเป้าไปที่ 39 ชุมชน ทั้งชุมชนเมือง ชุมชนแออัด และชุมชนที่อยู่ในเคหะ ซึ่งปัจจุบันมีรายงานผู้ติดเชื้อ 304 คน จำนวนนี้ 193 คน อยู่ในพื้นที่ค่อนข้างหนาแน่นในพื้นที่ชุมชนแออัด ทำให้ต้องเฝ้าระวังการแพร่เชื้อในชุมชนเพิ่ม อย่างไรก็ตาม นำผู้ติดเชื้อทั้งหมดเข้าสู่ระบบการรักษาแล้ว 100%

          นอกจากนี้ เมื่อบุคลากรควบคุมโรค สอบไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อ จะได้ประวัติว่าคนกลุ่มนี้พักที่ไหน ทำงานที่ไหน ก็ติดตามสอบสวนไปยังกลุ่มชุมชนเป้าหมาย ซึ่งแกนนำทั้ง 3 ชุมชน คือ

-ชุมชนหมู่บ้านพัฒนา 70 ไร่ 

-ชุมชนริมคลองวัดสะพาน และ

-ชุมชนพัฒนาใหม่

          ซึ่งเป็นชุมชนที่พบติดเชื้อจำนวนมาก จะร่วมมือช่วยชี้เป้าติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งตอนนี้มีผู้มีความเสี่ยงสูงเกือบพันราย และมีแผนที่จะระดมตรวจกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ และขอความสนับสนุน ศบค.ทั้งทรัพยากร บุคลากร ช่วยลงตรวจ รวมทั้งการจัดการเมื่อตรวจพบผู้ป่วยจะคัดแยกระดับอาการรุนแรง เขียว เหลือง แดง และจัดตั้งศูนย์รับเรื่อง คือ จุดพักคอยวัดสะพาน สำหรับผู้มีอาการระดับสีเขียว ไม่มีโรคประจำตัว เพราะเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ผลยืนยันแล้ว การกลับบ้านอาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อในครอบครัว

          นอกจากนี้ ศบค.พูดถึงชุมชนบ่อนไก่ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน พบผู้ป่วยยืนยัน 60 คน ศูนย์บริการสาธารณสุข มีการจัดการใกล้เคียงชุมชนคลองเตย มีรถพระราชทาน ลงพื้นที่ ให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์คนกลุ่มเสี่ยงให้แยกกักที่บ้าน ขอให้ดูรายละเอียดเรื่องการสุ่มตรวจ จะตรวจให้ได้ 4,000 คน ขอให้คนในพื้นที่ติดตามรายละเอียด ผู้นำชุมชน สถานประกอบการ ติดตามข่าวและดูแลบุคลากรในความดูแลด้วย