ในขณะที่หลายประเทศกำลังมีปัญหาขาดแคลนวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่การดำเนินโครงการวัคซีนในสหรัฐฯ กำลังมีปัญหาประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนลดลง จนศูนย์วัคซีนหลายแห่งต้องปิดทำการ รัฐบาลกลางตลอดจนทางการของแต่ละรัฐต้องดำเนินโครงการโน้มน้าวให้ประชาชนและผู้พำนักถาวรมาเข้ารับวัคซีน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือซีดีซีเผยว่า จนถึงเมื่อวันเสาร์ (1 พ.ค.) มีผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ มากกว่า 100 ล้านคน ได้รับวัคซีนครบแล้ว คิดเป็นร้อยละ 30.5 ของประชากรในประเทศ โดยร้อยละ 55 ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง ยังอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันกลุ่ม ในบางรัฐได้รับข้อร้องเรียนว่าศูนย์บริการวัคซีนตั้งอยู่ห่างไกลจากที่พักมากเกินไป และต้องเพิ่มศูนย์บริการวัคซีนเคลื่อนที่ เพื่อให้เข้าถึงชุมชนที่อยู่โดดเดี่ยวทางภูมิศาสตร์หรืออยู่ห่างไกลจากศูนย์บริการหลัก นอกจากนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยาหลายแห่งยังได้ร่วมกันออกประกาศโน้มน้าวให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน
นายซาอัด โอเมอร์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเยล เปิดเผยว่า อีกปัจจัยหนึ่งคือกลุ่มต่อต้านวัคซีน แต่แนะนำให้เน้นไปที่กลุ่มผู้ที่มีความต้องการฉีดวัคซีนแต่อาจมีปัญหาเรื่องการเดินทาง และการส่งเสริมข้อมูลความคืบหน้าของผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว เพื่อให้ผู้ที่ยังมีข้อสงสัยหรือลังเล ตัดสินใจเข้ารับวัคซีน
นายเจฟฟรีย์ ไซอ็องส์ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้านวัคซีนเปิดเผยว่า กลุ่มที่ต้องการวัคซีนมากที่สุดและสามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้โดยสะดวกผ่านไปแล้ว การทำงานในช่วงที่ 2 นี้มีความแตกต่างออกไป ซึ่งต้องใช้เวลาในการสำรวจและดำเนินการ นอกจากนี้ข้อมูลของซีดีซี ยังแสดงให้เห็นจำนวนผู้รับวัคซีนที่ลดลงจากจำนวนสูงสุดที่ 3 ล้าน 4 แสนนัดต่อวันในวันที่ 13 เมษายน มาอยู่ที่ 2 ล้าน 6 แสนครั้งต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มองค์กรเอกชน ที่สนับสนุนโครงการวัคซีนเพิ่มเติมว่า ปัญหาของโครงการในระยะที่ 2 คือการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ ที่ทำให้ประชาชนไม่เข้ารับวัคซีน การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
..
ชาวเกาะคานารี สเปน ร่วมประท้วงปัญหาการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ
...
รัสเซียยึดเรือบรรทุกน้ำมันกรีกหลังออกจากท่าเรือเอสโตเนีย
...
เอฟบีไอเผยเหตุระเบิดที่คลินิกในปาล์มสปริงส์ เป็นก่อการร้าย
...
ข่าวทั้งหมด
