กระทรวงสาธารณสุขบราซิล รายงานว่าในวันพฤหัสบดี (29 เม.ย.) มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 3,001 รายในรอบ 24 ชั่วโมงก่อนหน้าทำให้มีผู้เสียชีวิตผ่านระดับ 400,000 ราย มาอยู่ที่ 401,186 ราย และกรรมาธิการวุฒิสภาเปิดการสอบสวนรัฐบาลของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ว่ามีส่วนทำให้วิกฤตรุนแรงขึ้นหรือไม่
บราซิลมีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว แต่จากจำนวนประชากร 212 ล้านคน ทำให้บราซิลมีอัตราเฉลี่ยของการเสียชีวิตสูงสุดในการระบาดครั้งนี้โดยมีผู้เสียชีวิต 189 รายต่อประชากร 100,000 คน จากวิกฤตโควิด-19 ยังทำให้ระบบโรงพยาบาลต้องพังทลายในหลายพื้นที่ และแม้ว่าจะผ่านช่วงเวลาที่มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่มากที่สุด แต่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันยังคงอยู่ในระดับสูงมากโดยมีจำนวนเฉลี่ยอยู่ที่ 2,526 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นรองจากอินเดียเพียงประเทศเดียวเท่านั้น
นักระบาดวิทยาระบุว่า สาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเกิดจากไวรัสโควิดสายพันธุ์บราซิล (P1) ซึ่งพบการกลายพันธุ์ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม สายพันธุ์นี้สามารถทำให้ผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ได้รับการรักษาจนหายแล้ว กลับมาติดเชื้อได้อีกครั้งและแพร่เชื้อต่อไปได้ง่ายกว่าเดิม โดยในขณะนี้พบผู้ติดเชื้อใน 54 ประเทศ ซึ่งองค์การอนามัยโลก ระบุว่าเป็น "ตัวแปรที่น่ากังวล" เหมือนกับสายพันธุ์สหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้
ในขณะเดียวกันบราซิลกำลังต่อสู้กับปัญหาการขาดแคลนวัคซีน ประชาชนประมาณ 28 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เข็มแรก หรือประมาณร้อยละ 13 ของประชากร แต่หลังจากนั้น 14 รัฐจาก 27 รัฐต้องประกาศระงับการฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 เนื่องจากไม่มีวัคซีน อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ ทางการบราซิลได้รับการส่งมอบวัคซีนของไฟเซอร์ 1 ล้านโดสแรก ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกในปัจจุบันที่เป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกา และโคโรนาแวคจากจีน
เมื่อวันอังคาร (27 เม.ย.) วุฒิสภาบราซิล เปิดการสอบสวนรัฐบาลของนายโบลโซนาโรว่ามีความผิดฐานละเลยการปฏิบัติตามหน้าที่ในการจัดการโรคระบาดหรือไม่ จากการที่เขาคัดค้านมาตรการควบคุมโรคระบาดและปฏิเสธข้อเสนอของบริษัทวัคซีนหลายแห่ง ซึ่งเขายังคงยืนยันแนวคิดเดิมที่ว่าการใช้มาตรการควบคุมโรคระบาดจะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศรุนแรงกว่าโรคระบาด ทั้งกล่าวด้วยว่าไม่รู้สึกกังวลที่ถูกสอบสวนการทำงาน
....