การควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมศบค.มีมติปรับระดับการกักตัวให้กลับมากักตัว 14 วัน เหมือนเดิมในทุกประเภท สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่อนุญาตให้ออกนอกห้องพัก ยกเว้นเพื่อการตรวจหาเชื้อและรักษาพยาบาล และตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.เป็นต้นไปให้มีการตรวจหาเชื้อทั้งหมด 3 ครั้ง หลังจากนี้จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ในเวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป อย่างน้อยเป็นเวลา 14 วัน
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.ยังมีมติปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักร พื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้มงวดสูงสุด สีแดงเข้ม จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี และสมุทรปราการ
โดยพื้นที่สีแดงเข้ม
- ห้ามรับประทานในร้าน
- ร้านอาหาร - ห้างเปิดขายได้ถึง 3 ทุ่ม -ห้ามรวมกลุ่มเกิน 20 คน
- การแข่งขันกีฬาจัดได้แต่ห้ามมีผู้ชม
- ห้ามออกนอกพื้นที่ โดยไม่มีเหตุจำเป็น หากจำเป็นต้องเดินทางต้องแจ้งรายละเอียดกับด่านความมั่นคง
โดยมาตรการ ห้ามนั่งทานอาหารในร้าน ซื้อกลับบ้านได้ เปิดถึง 21.00 น. ห้ามจัดกิจกรรมรวมตัวกันเกิน 20 คน
-พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 45 จังหวัด (จาก 18 จังหวัด)
-พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 26 จังหวัด (เดิม 59 จังหวัด)
-พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง (ไม่มีจังหวัดใด)
สำหรับการบังคับเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย บทลงโทษสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ แทนการปรับเป็นจำนวนเงิน เช่นให้บำเพ็ญประโยชน์
นอกจากนั้น ยังขอความร่วมมือ ให้ทำงานที่บ้าน เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด