คลังลดจีดีพีปีนี้เหลือร้อยละ 2.3 ส่งออกมี.ค.ขยายตัวร้อยละ 8.5

29 เมษายน 2564, 13:10น.


          ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปีนี้ น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้เหลือร้อยละ 2.3 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ 1.8-2.8 ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.8 จากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ทั้งในประเทศไทยและหลายประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้ปรับลดคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ลงเหลือ 2 ล้านคน จากคาดการณ์เดิมที่ 5 ล้านคน รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงมาอยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท ลดลง ร้อยละ 49 จากคาดการณ์เดิมที่ 2.6 แสนล้านบาท



          ขณะที่ภาพรวมการส่งออกในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ระดับร้อยละ 11 ดีขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ  6.2 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง



          สำหรับ รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม 2564 พบว่า “เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2564 ได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า และการใช้จ่ายภาคเอกชน ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องติดตามผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2564 ต่อไป” โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

          มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวจากเดือนก่อน มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 24,222 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 8.5 ต่อปี และเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวที่ร้อยละ 12.0 ต่อปี โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่



1) สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัวร้อยละ 43.1 และ 50.6 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการส่งออกเม็ดพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง



 2) สินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และอาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัวร้อยละ 109.2 59.2 และ 41.4 ต่อปี ตามลำดับ



3) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) อาทิ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ โทรศัพท์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาทิ ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น และ



4) สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และถุงมือยาง ที่ยังคงมีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า



          โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดจีน ที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ร้อยละ 35.4 ต่อปี เช่นเดียวกับการส่งออกไปสหภาพยุโรป เอเชียใต้ และทวีปออสเตรเลีย ขยายตัวที่ร้อยละ 32.0 24.3 และ 16.9 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การส่งออกไปตลาดอาเซียน 9 ประเทศ ลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ -0.4 ต่อปี



          สำหรับบริการด้านการท่องเที่ยว พบว่า ในเดือนมีนาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa: STV) รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) และนักธุรกิจ จำนวน 6,737 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร และจีน เป็นต้น ในขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยขยายตัวร้อยละ 71.5 ต่อปี สำหรับภาคเกษตรสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก ยางพารา และผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ เช่น สุกร และไก่ เป็นต้น



          เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ -0.1 ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.1 ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 อยู่ที่ร้อยละ 53.2 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2564 อยู่ในระดับสูงที่ 245.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ข่าวทั้งหมด

X