ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสในวาระครบรอบการดำรงตำแหน่ง 100 วัน ซึ่งเขาเริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ มีความแตกต่างจากการประชุมสภาคองเกรสที่ผ่านมาอยู่เล็กน้อย เพื่อย้ำเตือนถึงช่วงเวลาพิเศษที่เรากำลังเผชิญอยู่ ตลอดประวัติศาสตร์ของเราประธานาธิบดีสหรัฐฯจะมาที่ห้องนี้เพื่อพูดคุยกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับนโยบายที่มีต่อประเทศชาติและทั่วโลก แต่ในคืนนี้เขาจะมาพูดคุยเกี่ยวกับวิกฤตและโอกาส
เนื่องจากข้อจำกัดของมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้ต้องมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมเหลือ 200 คนจากปกติ 1,600 คน และยังเป็นครั้งแรกที่ผู้หญิง 2 คนนั่งอยู่ที่ด้านหลังประธานาธิบดีขณะกล่าวสุนทรพจน์ คือนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี กับนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรส
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวสุนทรพจน์ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 5 นาที โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเสนอโครงการใหม่หลายโครงการที่มีมูลค่าถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งการลงทุน และเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม ซึ่งเขาย้ำว่า การใช้จ่ายเงินของรัฐบาลในหมวดสินค้าและบริการ คือหัวใจสำคัญของแผนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งได้รับเสียงปรบมือสนับสนุนจากทั้ง 2 ฝ่ายในสภาคองเกรส
ประธานาธิบดีกล่าวขอบคุณสมาชิกสภาคองเกรสที่ผ่านความเห็นชอบมาตรการบรรเทาทุกข์ทางเศรษฐกิจฉุกเฉินโควิด-19 มูลค่า 1 ล้าน 9 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งนับเป็นโครงการสำคัญที่สุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เขากล่าวว่า เป็นเวลา 100 วันแล้วนับจากการสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ท่ามกลางวิกฤตการระบาดใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ วิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และมีการโจมตีระบอบประชาธิปไตยของเราที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามกลางเมือง แต่หลังจากนั้นเพียง 100 วัน อเมริกาก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้อีกครั้ง เขาได้เปิดตัวโครงการมูลค่า 1 ล้าน 8 แสนล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือครอบครัวอเมริกัน ซึ่งเป็นการลงทุนเพิ่มเติมในด้านการศึกษา การดูแลเด็กและการลาพักร้อน โดยเงินงบประมาณในส่วนนี้จะมาจากการขึ้นภาษีคนรวย
และกล่าวถึงความสำเร็จของโครงการวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเขาได้ให้สัญญาว่าจะฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสให้แก่ประชาชนภายใน 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งแต่ในทางปฏิบัติมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว มากกว่า 220 ล้านโดส ภายใน 100 วัน นอกจากนี้ยังมีการจัดส่งวัคซีนให้แก่ร้านขายยาเกือบ 40,000 แห่งและศูนย์สุขภาพชุมชนกว่า 700 แห่ง เพื่อให้ผู้ยากไร้ในชุมชนห่างไกลสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ ทุกคนที่อายุเกิน 16 ปีทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีนทันที
ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวด้วยว่า การอพยพมีความจำเป็นต่ออเมริกา จึงขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติ ร่วมยุติสงครามที่เหนื่อยล้าเพื่อรับรองผู้อพยพ ที่เขากล่าวว่าเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่นักการเมืองพูดคุยเกี่ยวกับการปฏิรูปการย้ายถิ่นฐาน แต่ไม่มีการลงมือทำอะไรเลย โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่าในขณะนี้มีผู้ยื่นเรื่องขอวีซ่าพำนักอาศัยมากเกือบ 2 ล้าน 6 แสนใบ ซึ่งผู้ร้องเกือบ 5 แสนคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์
ประธานาธิบดีไบเดน ยังขอให้สภาคองเกรสสนับสนุนกฎหมายควบคุมอาวุธปืนอีกครั้ง ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่า ความรุนแรงจากอาวุธปืนคือโรคระบาดในอเมริกา จึงขอให้วุฒิสภารีพับลิกันเข้าร่วมกับเดโมแครตปิดช่องว่างในการตรวจสอบประวัติผู้ซื้ออาวุธ ทั้งมีความจำเป็นที่จะต้องห้ามการครอบครองอาวุธจู่โจมและซองกระสุนที่มีความจุมาก เขากล่าวว่า เป็นการปฏิรูปที่สมเหตุสมผล ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากชาวอเมริกันรวมถึงเจ้าของปืนจำนวนมาก
....