ปัตตานีเข้ม คนเข้า-ออก เน้น สงขลา นราธิวาส หลังพบติดเชื้อคลัสเตอร์

         สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดปัตตานี ล่าสุด นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ออกคำสั่งจำกัดบุคคลเดินทางเข้า-ออก จังหวัดปัตตานี ณ วันที่ 27 เม.ย.64 โดยมีการผ่อนผันสำหรับกรณีผู้ที่เดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี ได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) ผู้ขับรถขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์และการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น อาหาร เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าเกษตรที่จำเป็น น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุ/สินค้าอุตสาหกรรมไปรษณียภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ หนังสือพิมพ์ และสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก เป็นตัน

(2) ผู้ปฏิบัติงานในกิจการ/กิจกรรมเพื่อประโยชน์ด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการการสื่อสารโทรคมนาคม การก่อสร้าง การซ่อมบำรุงต่าง ๆ

(3) ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาลการธนาคาร การศึกษา การขนส่งประชาชน

(4) ผู้เดินทางตามเงื่อนไขในกระบวนการยุติธรรม

(5) เจ้าหน้าที่ผู้เดินทางไปปฏิบัติราชการตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆของทางราชการ

          ขณะนี้ ผู้ติดเชื้อของปัตตานี ทั้งหมด 63 คนเกิดจากติดเชื้อในสองพื้นที่คือ จ.สงขลา และจาก จ.นราธิวาส ดังนั้นจึงได้ตั้งด่านเพื่อคัดกรองคนที่เข้ามาปัตตานี โดยทุกคนที่เข้าออก ต้องมีการรายงานตัวที่ด่าน บอกว่ามาจากไหน จะไปไหน กรณีให้ผู้ที่เดินทาง เข้า-ออก ได้ภายใน 1 วัน โดยไม่ต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แต่หากมีเหตุผลหรือความจำเป็นเร่งด่วน ต้องอยู่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาเป็นรายกรณี

          ส่วนฝั่ง จ.ยะลา ยังถือว่าไม่ใช่พื้นที่เสี่ยง สามารถเดินทางผ่านไปมาได้ปกติ เชื่อว่ามาตรการที่มีทั้งหมดตอนนี้จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิดได้ในระดับหนึ่ง ถ้าไม่ได้ก็จะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ

         กลุ่มคลัสเตอร์ที่เกิดหลักๆ ของ จ.ปัตตานี คือจากที่ร้านอาหารติดลม กลุ่มนี้เป็นใหญ่ มีประมาณ 500 กว่าคน อีกส่วนเชื้อมาจาก งานศพที่ จ.นราธิวาส คือ คนไม้แก่น แล้วไปรักษาตัวที่ มอ. แล้วพามาติดพี่น้องที่ อ.หนองจิก