การประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ได้อนุมัติวงเงิน 3,000ล้านบาทให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหาในพื้นที่แล้งซ้ำซาก ส่วนการส่งออก นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยู่ในภาวะฟื้นตัวมากขึ้น โดยการส่งออกของไทยส่วนใหญ่อยู่กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ดังนั้นจะต้องหามาตรการช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีให้มากขี้น
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แม้ราคาน้ำมันจะลดลง แต่คงไม่สามารถลดสินค้าทุกอย่างตามได้ เพราะจะส่งผลต่อการเก็บภาษีของรัฐบาล ซึ่งทุกวันนี้รัฐบาลมีภาระหนี้และรายจ่ายมากอยู่แล้วเช่น รายจ่ายค่ารถเมล์ รถไฟฟรีที่มีมากกว่า 4,600ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งรัฐบาลต้องจัดเก็บภาษีให้มากขึ้น เพื่อนำไปใช้หนี้และพัฒนาประเทศ ส่วนการแก้ปัญหาราคาข้าวนั้น ได้สั่งให้เร่งระบายข้าวใหม่ เพราะข้าวเก่าที่มีอยู่นั้นคงไม่สามารถทำรายได้ได้ดีแล้ว เนื่องจากไม่มีประสิทธิภาพในการขาย
ส่วนออกมาตรการคิวอี ของธนาคารกลางยุโรป กว่า 60,000ล้านยูโร ทำให้ต้องเฝ้าระวังเงินทุนที่ไหลเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรี การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น จะไม่มีผลกระทบส่วนในระยะยาว ต้องติดตาม ส่วนค่าเงินบาท ไม่น่ากังวล เพราะยังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่คนร้ายยิงแม่ที่ไหว้อ้อนวอนขอชีวิตแทนลูกที่จ.นครปฐมด้วยว่า เป็นเหตุการณ์ที่ตัวเองรับไม่ได้ และได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งจับคนร้ายภายในได้ หากขัดขืนก็อนุญาตให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการจับกุม มีรายงานว่าผู้ปกครองของคนร้าย ได้นำตัว ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเยาวชน เข้ามามอบตัวกับตำรวจวันนี้แล้ว