การเดินทางเยือนประเทศไทย ของผู้แทนรัฐบาลสหรัฐ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับพล.อ. ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับผู้แทนรัฐบาลสหรัฐอเมริกาซึ่งถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าประเทศมหาอำนาจยังมีท่าทีวางตัวอยู่เหนือประเทศไทย และขอให้เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็วก็ตาม
โดยพล.อ. ธนศักดิ์ ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ ว่ารัฐบาลทหารไม่ได้ใช้กำลังจัดการกับประชาชน พร้อมย้อนถามว่าหากสหรัฐฯประสบกับเหตุการณ์ในประเทศไทยจะจัดการอย่างไร ส่วนตัวยังได้สั่งให้กระทรวงการต่างประเทศคอยติดตามสถานการณ์และท่าทีจากประเทศต่างๆอยู่เป็นระยะ ส่วนการหารือกับเอกอัครราชทูตกว่า 21 ประเทศเมื่อวานนี้ พบว่าทุกประเทศเข้าใจสถานการณ์ไทยดี และได้ชี้แจงถึงโรดแมปและปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไปแล้ว ในเดือนกันยายนนี้ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประชุมสหประชาชาติตามคำเชิญ เพื่อชี้แจงถึงโรดแมปอีกครั้ง พร้อมระบุด้วยว่า เวลาที่เหลืออยู่อีกปีกว่านี้ จะพยายามวางรากฐานปฎิรูปประเทศ พัฒนาประชาธิปไตย หลักธรรมาภิบาล การเพิ่มอำนาจต่อรองระหว่างประเทศ และความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีที่สุด แต่จะต้องคำนึงถึงประชาคมโลก และการเป็นประชาคมอาเซียนด้วย ฃ
ส่วนการยกเลิกกฎอัยการศึกยังไม่มีการพูดถึง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ารมีกฎหมายไว้ก็เพื่อควบคุมคดีต่างๆทั้งคดีอาญา คดีทุจริต และชี้ว่า การทำรัฐประหารครั้งนี้ ไม่มีเหมือนประเทศอื่น เพราะไม่มีการใช้อำนาจขั้นรุนแรง และยังให้อิสระกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังระบุว่า ตัวเองเป็นทหารที่รักประชาธิปไตย และขอให้ประชาชนร่วมมือกับรัฐบาล อย่าติติงการทำงาน และยืนยันว่ารัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาและการออกกฎหมายต่างๆหลายฉบับด้วย
ส่วนการถอดถอน น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น เป็นไปตามดุลยพินิจของสนช.และขั้นตอนตามกฎหมาย การดำเนินคดีนี้มีมาตั้งแต่ก่อนที่คสช.จะเข้ารัฐประหาร ยืนยันไม่ได้ ไล่ล่าใคร หากจะเดินทางไปต่างประเทศก็ต้องขออนุญาตคสช.ตามปกติ เพราะหา ต้องการจะจัดการกลับ น.ส. ยิ่งลักษณ์ คงไม่ต้องตั้งสนช.ขึ้นมา ซึ่งการดำเนินคดีต่อจากนี้ ว่าไปตามหลักฐานและความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ส่วนการเข้าพบผู้แทนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้สนใจ แต่แต่หากเมื่อใดมีการเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย ต้องใช้กฎหมายจัดการ ส่วนคำแถลงการณ์ของนางสาง ยิ่งลักษณ์ ส่วนตัวไม่ได้ฟัง เพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ