กรณีที่มีการแชร์ภาพกล่องวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค มีการขีดฆ่าวันหมดอายุเดิม จากปี 64 และเปลี่ยนเป็นปี 67 จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า วัคซีนที่นำมาฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน เป็นวัคซีนหมดอายุหรือไม่
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า วัคซีนยังไม่หมดอายุ และในแต่ละประเทศนั้นจะมีการกำหนดวันหมดอายุนับจากวันที่ผลิตไม่เหมือนกัน เช่น
-ประเทศจีน กำหนดวันหมดอายุไว้ที่ 3 ปีนับจากวันที่ผลิต
-ฮ่องกงกำหนดไว้ที่ 1 ปี นับจากวันที่ผลิต
-ไทย อินโดนีเซีย กำหนดไว้ 6 เดือนนับจากวันที่ผลิต
ซึ่งปกติแล้ว ผู้ผลิตจะอำนวยความสะดวก กำหนดวันหมดอายุตามพื้นที่จัดส่ง แต่ระยะหลังมีการสั่งซื้อวัคซีนกันมาก และขอให้จัดส่งอย่างเร่งด่วนตามสถานการณ์ระบาดที่รุนแรงทั่วโลก ทางผู้ผลิตจึงปรับเปลี่ยนการจัดส่ง มีการนำวัคซีนของประเทศหนึ่งที่ยังไม่รีบใช้ ไปให้อีกประเทศหนึ่งที่มีความต้องการมากกว่าก่อน และขีดฆ่าวันหมดอายุซึ่งระบุไว้โดยอ้างอิงประเทศปลายทาง เปลี่ยนเป็นให้หมดอายุ 3 ปี นับจากวันที่ผลิตตามเกณฑ์ของจีนใหม่หมด เมื่อไปถึงปลายทางแล้ว แต่ละประเทศค่อยปรับแก้เอาตามข้อบังคับของแต่ละชาติ
ดังนั้น ที่เห็นมีการปรับแก้จาก 64 เป็น 67 เพราะวัคซีนล็อตนั้น ตามกำหนดการจัดส่งเดิมจะส่งให้ประเทศหนึ่ง ซึ่งกำหนดวันหมดอายุไว้ 3-6 เดือน แต่สถานการณ์ในไทย มีความจำเป็นอย่างมาก จึงส่งวัคซีนให้ไทยก่อน โดยโยกล็อตของประเทศอื่นมาให้ พร้อมกับแก้ไขวันหมดอายุไว้เป็น 3 ปีนับจากวันผลิต พอมาถึงไทย จึงมีรอยขีดฆ่า และเปลี่ยนแปลงอย่างที่เห็น แต่ขอยืนยันว่าวัคซีน ไม่หมดอายุแน่นอน รวมทั้งมีการตรวจสอบมาตรฐาน โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมีการควบคุมกำกับทุกขั้นตอน จนถึงการนำไปฉีดวัคซีน จึงขอให้ประชาชนสบายใจได้