ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค สามารถสร้างภูมิต้านทานโรคโควิด-19 ได้จริง โดยทางศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการศึกษาร่วมกับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว สมุทรสาคร มีผลการรายงานเบื้องต้น เกี่ยวกับภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ จากการตรวจภูมิต้านทานทั้งก่อนและหลังการให้วัคซีน พบว่า ภูมิต้านทานขึ้นได้ดีมาก เป็นที่น่าพอใจ และในช่วง 4 สัปดาห์หลังฉีดเข็ม 2 ภูมิต้านทานที่ขึ้น เท่าเทียมกับภูมิต้านทานที่ตรวจพบจากการติดเชื้อโดยธรรมชาติที่ 4 -8 สัปดาห์
ศ.นพ.ยง ยังระบุอีกว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนตรวจพบภูมิต้านทาน ต่อสไปรท์โปรตีน หรือหนามแหลม ถึงร้อยละ 99.4 ในขณะผู้ที่ติดเชื้อ ตรวจพบภูมิต้านทาน ร้อยละ 92.4 ระดับภูมิต้านทานในกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม มีค่าเฉลี่ยเรขาคณิตอยู่ที่ 89.5 u/ml ส่วนผู้ที่ติดเชื้อในธรรมชาติจะมีระดับภูมิต้านทานค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 61 u/ml แสดงให้เห็นว่าการได้รับวัคซีนทำให้มีภูมิต้านทานเกิดขึ้นได้เท่าเทียมกับภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ ซึ่งในขณะนี้ กำลังมีการศึกษาในระยะยาว ถึงความคงอยู่ของภูมิต้านทาน เพื่อจะคาดการณ์โอกาสที่จะเกิดการติดโรคหรือเป็นซ้ำ เพราะเป็นที่ทราบดีแล้วว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ถึงหายแล้วก็ยังมีโอกาสที่อาจจะติดเชื้อซ้ำได้ แต่ความรุนแรงน่าจะน้อยลง
ในระยะยาว จากผลการศึกษานี้จะช่วยบอกว่าจำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้นด้วยวัคซีนเข็มที่ 3 หรือไม่ และถ้าจะต้องกระตุ้นจะกระตุ้นเมื่อใด