บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ได้เริ่มส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับยุโรปอีกครั้ง หลังหน่วยงานกำกับดูแลของยุโรประบุว่าข้อดีของการฉีดวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) จัดการแถลงข่าวเมื่อวานนี้โดยระบุว่า การใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแจนเซน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อาจทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โดย EMA กล่าวว่า ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสันฯ ยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมกับแนะนำให้เพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับการเกิดลิ่มเลือดอุดตันและการมีเกล็ดเลือดต่ำซึ่งเกิดขึ้นได้ยากไว้ที่ฉลากของวัคซี ที่จะระบุคำเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดผลข้างเคียง พร้อมแนะนำวิธีการตรวจและการรักษา
บริษัทจะเริ่มจัดส่งวัคซีนไปยังสหภาพยุโรป (EU) นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์อีกครั้ง และกำลังเริ่มการทดสอบทางคลินิกใหม่อีกรอบ ดร.พอล สโตฟเฟลส์ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของจอห์นสันฯ กล่าวว่า หวังว่าด้วยการทำให้ผู้คนตระหนักรู้ รวมถึงให้การวินิจฉัยและแนวทางการรักษาที่ชัดเจนนั้น จะเป็นวิธีที่เราสามารถกอบกู้ความเชื่อมั่นในวัคซีนเราได้
ก่อนหน้านี้ สหรัฐระงับการใช้วัคซีนของจอห์นสันฯ เป็นการชั่วคราว หลังจากพบลิ่มเลือดอุดตันในสมองร่วมกับการมีเกล็ดเลือดต่ำในสตรี 6 ราย ทำให้จอห์นสันฯ ชะลอการส่งมอบวัคซีนให้กับยุโรป โดยในสหรัฐมีประชาชนเกือบ 8 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนของจอห์นสันฯ ด้านเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า จะใช้วัคซีนของจอห์นสันฯ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป