พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดประจำวันที่ 20 เมษายน 2564
1.ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,458 คน แบ่งเป็น
- จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,346 คน
- จากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 108 คน
- จากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน 4 คน
2.ยอดผู้ป่วยสะสม 46,643 คน
3.ผู้หายป่วยสะสม 46,643 คน
4.เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสม 110 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 109 เป็นหญิงไทย อายุ 56 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง และโรคอ้วน ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไอ เป็นไข้ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 จึงไปตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 วันรุ่งขึ้นได้รับทราบผลยืนยันว่าติดเชื้อ ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 มีอาการเหนื่อยหอบ ผลเอ็กซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง จากนั้นในวันที่ 19 เมษายน 2564 ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตรายที่ 110 เพศชาย อายุ 32 ปี มีโรคประจำตัวภูมิแพ้ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2564 ต่อมาวันที่ 8 เมษายน 2564 เริ่มมีไข้ต่ำ ไอมีเสมหะปนเลือด ในวันที่ 15 เมษายน 2564 มีอาการเหนื่อยมากขึ้น จึงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 เอ็กซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง ต่อมาอาการแย่ลงและเสียชีวิตในวันที่ 19 เมษายน 2564
ส่วนกรณีที่มีประชาชนสงสัยเกี่ยวกับการจำแนกผู้มีความเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ ในกรณีมีผู้ติดเชื้อในที่ทำงาน ในหมู่บ้าน หรือในคอนโด ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ระบุว่า การจำแนกผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อจะแบ่งเป็น 3 วง คือ
วงที่ 1 ผู้ที่มีความใกล้ชิดกับผู้ป่วย เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง คือ อยู่ใกล้กับผู้ป่วยในระยะต่ำกว่า 2 เมตร พูดคุยกับผู้ป่วยเกิน 5 นาทีโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการรับประทานอาหารร่วมกัน สัมผัสใกล้ชิดกัน จำเป็นต้องกักตัวและตรวจหาเชื้อ
วงที่ 2 ผู้ใกล้ชิดผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ให้สังเกตอาการตัวเอง หลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน และสวมหน้ากากอนามัย
วงที่ 3 ผู้ใกล้ชิดผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เท่ากับกลุ่มนี้เป็นผู้ไม่มีความเสี่ยง ไม่ต้องกักตัว และไม่ต้องตรวจหาเชื้อ
ส่วนผู้ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และต้องไปตรวจหาเชื้อ ควรไปตรวจในสถานที่ที่ได้มาตรฐาน วิธีการตรวจต้องเป็นที่ยอมรับ เพราะมีเหตุการณ์ไปตรวจในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ผลเป็นลบ หลังจากนั้น 4-5 วัน ไปตรวจซ้ำอีกครั้ง ปรากฏว่าติดเชื้อ จะทำให้การรักษาล่าช้าและแพร่เชื้อไปยังคนใกล้ชิด
และผู้ที่ไปตรวจหาเชื้อแล้ว อยู่ระหว่างฟังผลตรวจ ขอให้เคร่งครัดในเรื่องการกักกันตัวเอง คือ อย่าออกจากบ้าน งดไปโรงเรียนหรือที่ทำงาน , เว้นระยะห่างจากคนอื่นมากกว่า 2 เมตร , แยกห้องนอน หมอน ผ้าห่ม , ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น , แยกห้องน้ำ หรือทำความสะอาดหลังใช้ทันที , ไม่คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง เพราะเชื้ออาจติดสัตว์เลี้ยงได้ , หากสั่งของออนไลน์ให้พนักงานวางไว้หน้าบ้าน อย่ารับของโดยตรง , ทำความสะอาดที่พักอาศัยด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และสังเกตตัวเองว่ามีอาการไข้ หอบ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อหรือไม่ หากมีอาการให้สวมหน้ากากอนามัยและไปพบแพทย์
ส่วนข้อปฎิบัติเมื่อทราบผลว่าติดเชื้อ
1.ให้เตรียมเอกสารหลักฐานผลตรวจเพื่อยืนยันการติดเชื้อ และโทรแจ้งโรงพยาบาลที่ตรวจก่อน
2.ถ้าโรงพยาบาลที่ตรวจยังหาเตียงไม่ได้ ภายใน 1-2 วัน ให้โทรสายด่วน 1668 , 1330
3.ขอคำปรึกษาการปฏิบัติตัวระหว่างรอเตียง โทร 1668
4.ถ้ามีไข้สูง หายใจเหนื่อย ถ่ายเหลวหลายครั้ง โทร 1669
5.ลงทะเบียน Line Official Account @sabaideebot เพื่อรายงานอาการและรับคำแนะนำจากแพทย์