ความเคลื่อนไหวเมืองไทย19.30 น.ประจำวันอังคารที่ 20 เมษายน 2564

ความเคลื่อนไหวเมืองไทย19.30 น.ประจำวันอังคารที่ 20  เมษายน 2564

บุคลากรทางการแพทย์-กลุ่มเสี่ยงสูง จ.ระยอง ฉีดวัคซีนซิโนแวค เกิดอัมพฤกษ์ 6 คน

          การฉีดวัคซีนโควิด ในช่วงระยะแรก ประเทศไทย สามารถหาได้ 2 ยี่ห้อ คือ แอสตราเซเนกา และ ซิโนแวค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มเสี่ยงสูง เจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงาน รวมทั้งนักการเมือง ล่าสุด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการฉีดวัคซีน แล้วเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้น โดยโพสต์ระบุว่า “ปรากฏการณ์หลังฉีดวัคซีนเชื้อตายSinovac เกิดอัมพฤกษ์ขึ้นหกรายที่จังหวัดระยอง และยังมีอีกหนึ่งรายที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชาซึ่งคุณหมออภิวุฒิ เกิดดอนแฝก ผู้เชี่ยวชาญทางระบบประสาท ให้ยาละลายลิ่มเลือดและกลับมาเป็นปกติ ยืนยัน ด้วย MRI ซึ่งทางระบาดของโรงพยาบาลได้แจ้งกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว ลักษณะดังกล่าว น่าจะเป็นเฉพาะ ล็อตของวัคซีน และไม่น่าจะเป็นจากวัคซีนทั้งหมด ซึ่งประกาศตามของกระทรวงสาธารณสุข”

          ด้าน รศ.(พิเศษ.) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ คาดว่า 1-2 วันจะมีคำตอบที่ชัดเจน อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลก่อนสรุปและแถลงต่อประชาชนอีกครั้ง

รัฐบาลเพิ่มมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 คาดประกาศใช้มิ.ย.นี้

         หลังการประชุมของนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานเศรษฐกิจเพื่อหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเดินหน้าออกแพ็คเกจโครงการช่วยเหลือประชาชน เช่น โครงการเราชนะ คนละครึ่ง ม33 เรารักกัน หรือแม้แต่มาตรการใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นมา คือ เราผูกพัน ที่จะช่วยเหลือข้าราชการ อีกทั้งเตรียมมาตรการดึงเงินฝากที่มีอยู่ 5-6 แสนล้านบาทออกมาใช้จ่าย ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณา และคาดว่าปลายเดือนพฤษภาคมจะดำเนินการเรียบร้อย และประกาศใช้ในเดือนมิถุนายนนี้

          นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะดำเนินการตามแผนเดิม เนื่องจากความต้องการท่องเที่ยวยังไม่ลดลง โดยเน้นการท่องเที่ยวจากประเทศระยะไกล และเชื่อว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 ไทยระลอกนี้ไม่ส่งผลต่อนักท่องเที่ยว เพราะจากมาตรการของรัฐบาล รวมถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ ซึ่งระบบสาธารณสุขของไทยได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว

          ส่วนการระบาดของโควิด-19 ในระลอกใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อ GDP ของประเทศหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ขอประเมินสถานการณ์ในช่วงเดือนนี้ก่อน ถ้าหากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในสิ้นเดือนนี้ก็หาทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป ส่วนตัวเชื่อว่าหลังยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในระยะ 14 วันนี้ สถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากทุกคน พร้อมกับยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราเตรียมการควบคุมไว้ แต่บังเอิญเกิดความประมาทเสียเอง หากถ้าควบคุมสถานการณ์ได้ การฉีดวัคซีนในเดือน พ.ค.-มิ.ย.จะเป็นไปตามแผน และน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

หุ้นนิกเกอิ ร่วงต่ำสุดในรอบ 1 เดือน

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดวันนี้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจทำให้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่นอีกครั้ง และจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามมา ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 29,100.38 จุด ร่วงลง 584.99 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 29,135.73 จุด เพิ่มขึ้น 29.58 จุด

         ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,580.04 จุด เพิ่มขึ้น 5.13 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 102,624.85 ล้านบาท หุ้นไทยแกว่งตัวแคบ หลังตอบรับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่และมาตรการคุมเข้มไปมากแล้ว เริ่มที่จะมีการพักตัวในช่วงที่ยังต้องติดตามสถานการณ์ใน ระยะต่อไป ขณะที่การฉีดวัคซีนโควิด-19 หลายประเทศมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้มากกว่าคาด แต่ยังคงติดตามสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากสหรัฐฯจับ มือญี่ปุ่นหวังคานอำนาจจีน, ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 22 เม.ย.นี้ คาดว่าจะยังคงนโยบายผ่อนคลายเหมือนเดิม ส่วนบ้านเราให้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และการกระจายวัคซีนได้ทั่วประเทศได้เมื่อใด เพราะรอบนี้การระบาดดูรุนแรงกว่าครั้งที่แล้ว

รองนายกฯ ห่วงกทม.ระบาดคลัสเตอร์สถานบันเทิง ย้ำต้องแถลงข้อมูลทุกวัน

          สถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เป็นห่วงการแพร่ระบาดใน กทม. หากแก้ปัญหาใน กทม.ได้ ในต่างจังหวัดไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนน้ำยาตรวจโควิดขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันว่ามีเพียงพอ มีการสั่งทั้งในประเทศ และนอกประเทศ รวมๆ กว่า 1 ล้านชุดตรวจ รวมถึงยาฟาวิพิราเวียร์ยืนยันว่าเพียงพอ วันนี้มีการใช้มากขึ้น แต่ก็หามาเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

          สำหรับขณะนี้มีการนำเรื่องการทำงานของแพทย์มาเป็นเรื่องการเมืองพยายามดึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบสุขภาพ นายอนุทิน กล่าวว่า สธ.แถลงข่าวทุกวันโดยผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่ทำงานจริงๆ ผู้ที่รู้เรื่องจริงๆ อับเดท สถานการณ์จริงๆ เรียลไทม์จริงๆ มาให้ข้อมูลกับประชาชน ดังนั้น หากเป็นบุคลากรที่นอกเหนือจากนี้ เป็นการเขียนบทความ เป็นการวิเคราะห์ข่าว ก็ไม่ควรที่จะนำมาตื่นตระหนกมาก ฟังแล้วควรวิเคราะห์และเปรียบเทียบกับข้อมูลหลักของ สธ.นี่เป็นเหตุผลที่เราต้องแถลงข่าวทุกวัน เพราะรู้ว่าหากไม่แถลงทุกวันแล้วประชาชนจะไปรับฟังข่าวจากแหล่งอื่นซึ่งจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เป็นการวิเคราะห์ หรือความรู้สึกส่วนตัว ก็จะทำให้เกิดความรู้สึก ความหลากหลายของข่าว ดังนั้นขอให้รับฟังข่าวจาก สธ.

ศบค.ชี้ ผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์สถานบันเทิง ปกปิดข้อมูล

          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอภาพสาเหตุการเกิดระบาดรอบใหม่ ซึ่งได้ข้อสรุปว่า การระบาดระลอกใหม่เดือน เม.ย. มีการสอบสวนและยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อมีประวัติเชื่อมโยงสถานบันเทิง กระจายไปมากกว่า 71 จังหวัด มีเพียง 6 จังหวัดที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงโดยตรง คือ ชัยนาท ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล และ ระนอง

          การระบาดในกรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อสะสม 3,984 ราย โดยจำนวนนี้มี 1,583 ราย คิดเป็นร้อยละ 40 ของการติดเชื้อทั้งหมดเชื่อมโยงคลัสเตอร์สถานบันเทิง ส่วนในจังหวัดอื่น ๆ พบติดเชื้อสะสม 12,213 ราย มี 3,104 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง งานเลี้ยงสังสรรค์

          ทั้งนี้ ข้อมูลการสอบสวนโรคทำได้ยาก เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่ให้ข้อมูลมีเพียง 4,583 รายคิดเป็นร้อยละ 73 แบ่งเป็นนักเที่ยว 1,157 ราย นักดนตรี/นักร้อง 66 ราย ผู้สัมผัส 348 ราย พนักงาน 364 ราย และไม่ระบุ 84 ราย ส่วนที่ยังไม่ให้ข้อมูลอีก 1,677 ราย คิดเป็นร้อยละ 27 ขณะเดียวกันผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์สถานบันเทิง จำนวน 6,020 ราย จำแนกตามอายุ พบว่า ส่วนใหญ่อายุ 20-29 ปี ตามด้วย 30-39 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน

ศักดิ์สยาม ออกจากรพ.แล้ว รอตรวจซ้ำอีกครั้ง หลังกักตัวครบ 14 วัน

          นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ภายหลังเข้ารับการรักษาตัวจากโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. รวม 14 วัน ที่ รพ.บุรีรัมย์ ซึ่งล่าสุดอาการปกติทุกอย่าง แพทย์อนุญาตให้กลับมาพักที่บ้านใน จ.บุรีรัมย์ได้ และอีก 2-3 วัน จะไปรับการสวอปซ้ำรวมทั้งเจาะเลือดตรวจตามมาตรฐานสาธารณสุขอีกครั้งหนึ่ง

เชื้อโควิด-19 ลงปอด อาต้อย เศรษฐา

         หลังอาต้อย เศรษฐา  ศิระฉายา ติดเชื้อโควิด-19 ในขณะที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาโรคมะเร็งปอด ล่าสุด อีฟ พุทธธิดา ลูกสาวที่กำลังรักษาตัวจากโควิดเช่นกัน ได้อัพเดทอาการของคุณพ่อ ล่าสุดคุณหมอแจ้งว่าเชื้อลงไปที่ปอด แต่คุณหมอก็ให้ยาต้านแล้วพยายามเร่งดูแลในเรื่องของภูมิคุ้มกัน เพราะว่าคุณพ่อเพิ่งไปให้คีโมมาช่วงต้นเดือน เลยทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อน ตอนนี้คุณหมอพยายามดูแลคุณพ่อเต็มที่

          ส่วนอาการคุณพ่อไม่มีอาการอื่น เมื่อวันก่อนจึงตัดสินใจไปตรวจซ้ำ ผลก็ออกมาว่าพบเชื้อ ตอนนี้คุณหมอดูแลอยู่ ส่วนของคุณแม่ได้ตรวจซ้ำไปอีกรอบหลังจากที่พาคุณพ่อไปโรงพยาบาล คุณแม่ไม่พบเชื้อ กลับไปกักตัวอยู่ที่บ้านและเฝ้าดูอาการ คุณแม่ไม่มีอาการ คุณพ่อนอกจากไม่มีไข้แล้ว มีถ่ายท้อง วันก่อนถ่ายสามครั้ง วันนี้ถ่ายครั้งเดียว ถ่ายเหมือนท้องเสียและมีไอนิดหน่อย คุณพ่อไม่ได้มีอาการอะไรที่รุนแรง แต่ผลจากการเอ็กซเรย์เห็นว่ามันเข้าไปที่ปอด

          ส่วนของอีฟตอนนี้ไม่มีไข้ ไออย่างเดียว ยังอยู่กับสามีและลูกที่ฮอสพิทอล ต้น(สามี)มีไข้ขึ้นๆ ลงๆ เมื่อเช้ามีไข้ 38 อีฟ มีอาการไอ มีเสมหะ แต่ไม่มีไข้ น้องมีบุญตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรเลย เอ็กซเรย์ซ้ำสองรอบ ตอนแรกหมอเห็นมีรอยที่ปอดแต่คาดว่าไม่ใช่ผลจากโควิด เพราะคุยกับหมอเด็กแล้ว มั่นใจว่าไม่ใช่รอยจากโควิดต้องมอนิเตอร์กันต่อไป มีบุญไม่มีอาการอื่น ทานข้าวได้ปกติ

          ต้องขอบคุณทุกคนมากที่เป็นห่วงส่งกำลังใจมาให้ ต้องขอโทษทุกคนด้วยอาจจะรับโทรศัพท์ไม่ไหวได้ทุกท่าน อาจจะตอบไลน์ ตอบแมสเสจได้ไม่หมดทุกคนจริงๆ ช่วงนี้อีฟอาจจะต้องขอพักบ้างเพราะว่าพอลูกมาอยู่ด้วยก็จะนอนน้อย กลัวว่าจะไม่หาย อีฟขอบคุณทุกคนมากๆที่ส่งกำลังใจ ส่งของมาเยี่ยมส่งกัน ขอให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิดไม่ต้องมีใครมาเจอเรื่องแบบครอบครัวเรา ขอให้แข็งแรงทุกคนขอบคุณนะคะ”

สพฐ.เปิดปฏิทินรับนักเรียนใหม่ หลังโควิด-19 ระบาด ย้ำเด็กๆต้องมีที่เรียนทุกคน

          สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ล่าสุด นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่าได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด แจ้งประกาศปฏิทินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2564 (ฉบับใหม่) ซึ่งปรับตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

          สำหรับปฏิทินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2564 (ฉบับใหม่) มีดังนี้ ประถมศึกษาปีที่ 1 จับฉลากและประกาศผล วันที่ 2 พ.ค. รายงานตัวและมอบตัววันที่ 4 พ.ค.

-มัธยมศึกษาปีที่ 1 รับสมัคร วันที่ 24-28 เม.ย. สอบคัดเลือกวันที่ 8 พ.ค. ประกาศผล วันที่ 11 พ.ค. รายงานตัวและมอบตัว วันที่ 12 พ.ค.

-มัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เปิดสอน ม.ต้น และ ม.ปลาย รับสมัคร วันที่ 24-28 เม.ย. สอบคัดเลือกวันที่ 9 พ.ค. ประกาศผล วันที่ 12 พ.ค. รายงานและมอบตัว วันที่ 13 พ.ค.

-มัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เปิดสอนเฉพาะ ม.ปลาย รับสมัครวันที่ 24-28 เม.ย. สอบคัดเลือกวันที่ 9 พ.ค. ประกาศผลวันที่ 12 พ.ค. รายงานตัวและมอบตัววันที่ 13 พ.ค.

-โรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษที่จัดสอนสำหรับเด็กพิการ รับสมัคร วันที่ 24-30 เม.ย. ประกาศผล วันที่ 11 พ.ค. รายงานตัวและมอบตัวภายในวันที่ 15 พ.ค. โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส รับสมัครวันที่ 24-28 เม.ย. สอบคัดเลือกวันที่ 6-9 พ.ค. ประกาศผลวันที่ 11 พ.ค. รายงานตัวและมอบตัวภายในวันที่ 15 พ.ค.

-สำหรับเด็กที่ยังไม่มีที่เรียน ยื่นความจำนงได้ในวันที่ 12-13 พ.ค. ประกาศผลวันที่ 14 พ.ค. และมอบตัววันที่ 15 พ.ค.64

ฮ่องกงพบผู้โดยสาร 49 คนจากเครื่องบินอินเดียติดโรคโควิด-19

         ฮ่องกงพบผู้โดยสาร 49 คนที่นั่งเครื่องบินโดยสารของสายการบินวิสตาราของอินเดีย จากนครมุมไบ ทางภาคคะวันตกของอินเดียมายังฮ่องกงเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ติดโรคโควิด-19 นับเป็นตัวเลขคนไข้รายวันที่สูงที่สุดในฮ่องกงนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดระลอกที่ 4 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยฮ่องกงเพิ่งจะเปิดเผยผลตรวจโรคของผู้โดยสารในวันนี้ หรือก่อนครบกำหนดบังคับกักกันเฝ้าระวัง 3 สัปดาห์ในวันที่ 25 เมษายนนี้

          สำหรับเครื่องบินของสายการบินวิสตารา สามารถบรรทุกผู้โดยสาร 188 คน แต่เจ้าหน้าที่ฮ่องกงไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่าในวันเดินทางไปยังฮ่องกง เครื่องบินดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารกี่คน ก่อนหน้านี้ ฮ่องกงมีคำสั่งฉุกเฉินห้ามเครื่องบินทุกลำจากอินเดีย ปากีสถานและฟิลิปปินส์บินเข้ามายังฮ่องกง 2 สัปดาห์เริ่มตั้งแต่เมื่อวาน กล่าวถึงประเทศทั้งสามว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง หลังฮ่องกงตรวจพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากอังกฤษ หรือสายพันธุ์ N501Y เป็นครั้งแรก

          สำหรับฮ่องกงเป็นพื้นที่แรกๆของโลกที่พบเชื้อโรคโควิด-19 ช่วงต้นปี 2563 แต่มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินฮ่องกง การเว้นระยะห่างทางสังคมและการรณรงค์ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยช่วยลดการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งกำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนที่จะเดินทางเข้ามายังฮ่องกจะต้องมีผลตรวจเป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ในปัจจุบันฮ่องกงมีผู้ป่วยสะสม 11,696 คน เสียชีวิต 209 ราย

อินเดียขยายฉีดวัคซีน ให้ครอบคลุมคนอายุ 18 ปีขึ้นไป เริ่ม 1 พ.ค.นี้

          รัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า อินเดียขยายโครงการวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มประชากรวัยผู้ใหญ่หรือกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามศูนย์กระจายวัคซีนทั่วประเทศนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพื่อลดการแพร่ระบาด ที่ผ่านมาอินเดียมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 200,000 คนต่อวันนับตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน จนกระทั่งอินเดียสั่งให้ล็อกดาวน์กรุงนิวเดลี รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อลดโรค ปิดห้างร้าน 6 วัน เริ่มจากเมื่อวาน หลังโรงพยาบาลในกรุงนิวเดลีและอีกหลายเมืองใหญ่ของอินเดีย เริ่มประสบปัญหามีเตียงคนไข้ไม่พอรองรับคนไข้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจและยารักษาโรคโควิด-19

          สำหรับโครงการวัคซีนของอินเดีย ในปัจจุบันมุ่งฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรกๆ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ คนงานที่ปฏิบัติงานในด่านหน้าเช่น สนามบิน  และกลุ่มคนอายุ 45 ปีขึ้นไป ส่วนเรื่องมาตรการควบคุมวัคซีน รัฐบาลอินเดียกำหนดให้ผู้ผลิตท้องถิ่นส่งมอบร้อยละ 50 ของวัคซีนทั้งหมดให้กับรัฐบาลกลาง ที่เหลือจะจัดสรรให้กับรัฐบาลท้องถิ่นและขายให้กับลูกค้าต่างชาติในอัตราที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

          ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ อินเดียจัดรถไฟขบวนพิเศษ บรรทุกเครื่องช่วยหายใจไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ เริ่มจากรถไฟพิเศษขบวนแรกซึ่งแล่นจากรัฐมหาราษฏระทางภาคตะวันตกของประเทศในวันนี้ มุ่งหน้าไปยังเมืองวิศาขาปัตนัม  รัฐอานธรประเทศ ทางภาคใต้ของอินเดีย ขณะเดียวกันหลายรัฐได้นำถังออกซิเจนที่แต่เดิมจัดเตรียมไว้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น การทำเหมืองแร่ มาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ก่อน ในปัจจุบัน อินเดียมีผู้ป่วยสะสม 15,321,089 คน เสียชีวิต 180,550 ราย

ซิโนแวคส่งมอบวัคซีนรวม 260 ล้านโดสให้กับลูกค้าทั่วโลก

          นพ.อิน เว่ยตง (Yin Weidong) ประธานบริษัทและ CEO บริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด (Sinovac Biotech) ของจีนเปิดเผยว่าบริษัทซิโนแวคได้ส่งมอบวัคซีนรวม 260 ล้านโดสให้กับลูกค้าในประเทศต่างๆทั่วโลก ร้อยละ 60 ของวัคซีนทั้งหมด ส่วนอีกร้อยละ 40 ถูกจัดสรรให้กับศูนย์วัคซีนในประเทศ เพื่อใช้ป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับกลุ่มเสี่ยง

          ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะคัดเลือก 10 ประเทศมาเข้ารับการถ่ายทอดทางเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโดยเร็ว เพิ่มเติมว่าการผลิตวัคซีนที่หลายประเทศทั่วโลกผลิตอยู่ในปัจจุบันยังมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอที่จะใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ