สรุปข่าว 19.35 น
++ผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คสช. ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมพ.อ.วินธัย สุวารี ทีมงานโฆษก คสช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้จัดการประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวทุกบ่ายวันอังคาร โดยใช้สถานที่ประชุมเดิมคือ “บ้านเกษะโกมล” พร้อมให้มีการปรับโครงสร้าง สำนักงานเลขาธิ การ คสช.ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่ให้เร่งรัดงานส่วนราชการดำเนินนโยบาย คสช.ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนั้น คณะกรรมการฯยังได้แบ่งงาน เช่น พล.อ.ประวิตร กำกับดูแลงานการแก้ปัญหาความยากจน การลดเหลื่อมล้ำ การคลัง รัฐวิสาหกิจ งบประมาณ พาณิชย์ และ SME พล.อ.อุดมเดช เป็นประธานอนุกรรมการ ดูแลด้านตำรวจ ยาเสพติด ความมั่นคง การปกครองในทุกระดับ ส่วนกลาง-ภูมิภาค-ท้องถิ่น โดยมี พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นเลขาธิการคณะที่ปรึกษา คสช. ดูแล ยุทธศาสตร์ คสช.ในภาพรวม และ ประสานงาน สปช.-สนช.
+++พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นำคณะเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ รวม 19 ประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคณะทูตดังกล่าวทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญชวนให้มาสังเกตการณ์ภายในประเทศไทย รวมถึงขอให้มาร่วมโปรโมทด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย จากนี้ไปทางไทยจะให้ความร่วมมือกับสหประชาชาติทุกๆด้าน ให้มีการพัฒนามากขึ้นในทุกมิติ ไม่ว่ามิติด้านความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม หรือวัฒนธรรม จะให้การสนับสนุนเต็มที่ ขณะที่ตัวแทนคณะทูต ได้แสดงความชื่นชมและประทับใจ โดยยืนยันเช่นกันว่าจะช่วยโปรโมทด้านการท่องเที่ยวประเทศไทย เพราะแม้แต่ตัวแทนบางคนที่เพิ่งเคยมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก ยังรู้สึกประทับใจที่ได้มาเยือนในครั้งนี้ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินลงมาส่งตัวแทนคณะทูตทั้ง 19 ประเทศด้วยตัวเอง พร้อมให้ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำคณะทูตไปเยี่ยมชมงานตลาดนัดกล้วยไม้คุณภาพ บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลด้วย สำหรับคณะทูตทั้ง 19 ประเทศจะพำนักเพื่อปฏิบัติภารกิจและศึกษาดูงานโครงการต่างๆ ทั้งโครงการพระราชดำริ ร่วมถึงจะเดินทางไปเยี่ยมชมทัศนียภาพการท่องเที่ยวทางจังหวัดฝั่งอันดามัน ในภาคใต้ด้วย ซึ่งจะพำนักอยู่ในประเทศไทยประมาณ 1 สัปดาห์
+++กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้ข้อสรุป บุคคล 8 กลุ่มที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมกรรมการในองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ใช้อำนาจตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ รวมทั้ง เพิ่มข้อความให้ผู้ที่ครอบครอง หรือดูแลทรัพย์สินของผู้ที่อยู่ใน 8 กลุ่ม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก็จะต้องแจงทรัพย์สินหรือสินในส่วนนั้นด้วยคือนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี กรรมการในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ที่ใช้อำนาจตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ เช่น กกต. ป.ป.ช. กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส.ส. ส.ว. ข้าราชการการเมืองอื่น และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น ผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น และ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ
+++ที่บ้านพักเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ นายแดเนียล รัสเซล ผู้แทนรัฐบาลสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยใช้เวลา 30 นาที ในการพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมือง และการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่ง ในคดีทุจริตจำนำข้าวจากนั้น นายแดเนียล จะเดินทางไปเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่พรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนั้นจะเดินทางไปพบ พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ที่กระทรวงต่างประเทศ
+++ด้านขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงเหตุผลที่คณะผู้แทนสหรัฐฯ ไม่ได้มาพบตนว่า เขารู้ว่าตนมาอย่างไร ซึ่งจะต้องแยกกันระหว่างการค้ากับกฎอัยการศึก แยกการค้าเศรษฐกิจ ประเทศที่ต่อต้านไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็ยังมีการติดต่อค้าขายตามปกติ และการพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่ได้ห้ามปราม
+++นายทหารของกองทัพภาคที่ 1 ได้โทรประสานเชิญตัว นายสิงห์ทอง บัวชุม คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้าพบ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่กองทัพภาค 1 ในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.) เวลา 11.00 น. นายสิงห์ทอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าถูกเชิญตัวไปพบด้วยเรื่องใด ซึ่งตนได้สอบถามไปแล้วแต่ผู้ที่มาเชิญบอกเพียงว่าให้ไปคุยกับนาย คาดว่า เป็นเพราะได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัว ในประเด็นที่กองทัพขอความร่วมมือไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังจากที่ สนช.มีการลงมติถอดถอน
+++แกนนำกปปส. และญาติของ นายสุทิน ธราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชน และเครือข่ายปฎิรูปพลังงานไทย หรือ กคป.ซึ่งถูกยิงที่หน้าวัดศรีเอี่ยม ย่านบางนา วันนี้เมื่อปีที่แล้ว หลังคดีมีความล่าช้าผ่านมานานกว่า 1 ปียังไม่มีความคืบหน้า พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงมารับเรื่อง พร้อมกล่าวยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ โดยสามารถติดตามความคืบหน้าได้ที่ สน.บางนาท้องที่เกิดเหตุ อีกทั้งในระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะทำงานดูแลเรื่องกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมภาพและหลักฐานต่างๆไว้หมดและได้กำชับอย่างเต็มที่ส่วนประเด็นการเสียชีวิตของผู้ต้องหาเป็นความรับผิดชอบของเรือนจำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวฝากขังไปแล้ว
+++ปฎิรูปการบินไทย หลังขาดทุนต่อเนื่อง นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าหลังแผนปฏิรูปการบินไทยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. เรียบร้อยแล้ว การบินไทยยืนยันความจำเป็นที่ต้องปฎิรูปองค์กร หลังแผนการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง 5 ไตรมาส จะดำเนินการ 3 ขั้นตอน คือ เริ่มจากลดการขาดทุนให้ได้โดยเร็ว ยกเลิกเส้นทางบินที่ขาดทุนต่อเนื่อง เร่งสร้างรายได้เส้นทางบินที่มีศักยภาพ สร้างความสามารถแข่งขัน สร้างสมรรถนะบริการ บุคคลากร ในการหารายได้ ลดต้นทุน และ ยกระดับการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของ ส่วนจะรวมถึงลดจำนวนบุคคลากรหรือไม่ แผนปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นนั้น
+++พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการบินพลเรือน ออกประกาศเพิ่มเติม เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแล การขออนุญาตการใช้และปล่อยอากาศยานไร้คนขับ หรือ "โดรน" เพื่อป้องกันไม่ให้การใช้งาน นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวว่า ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะออกประกาศว่าด้วยหลักเกณฑ์การขออนุญาตใช้โดรน มีเกณฑ์สำคัญ 3 ด้าน สมรรถนะ จะกำหนด น้ำหนัก ขนาด ต้องบินในระยะที่ไม่นานเกินกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนจราจรทางอากาศ ไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปนำโดรนที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพขึ้นบิน เพราะอาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล กำหนดห้ามโดรนบินในระดับความสูงที่เกินกว่า 500 ฟุต และต่ำเกินกว่า 50 ฟุตจากระดับพื้นดิน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบินพาณิชย์ และห้ามบินต่ำเกินไปจนส่งกระทบต่อบ้านเรือนและประชาชนทั่วไป หากไม่ขออนุญาตมีความผิดตามกฎหมาย โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
+++หลังจากมีคำสั่งให้ ภ.จว.สุพรรณบุรี นำข้าราชการตำรวจ ระดับ รองผบก.สว.ที่ได้รับการแต่งตั้งในวาระประจำปี 2557 จำนวน 28 นาย เข้าพบ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอรับโอวาทและคำแนะนำในการปฎิบัติหน้าที่ ในวันพรุ่งนี้ บ้านพักถนนจรัญสนิทวงศ์ กทม. เวลา 07.30 น. จนเกิดกระแสวิพากษ์ วิจารณ์ถึงความเหมาะสมกันอย่างกว้างขวางนั้นล่าสุด มีการส่งภาพบันทึกข้อความด่วนที่สุด เรื่อง "แจ้งยกเลิกการเข้าพบ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 21แล้ว เนื่องจากมีเหตุผลบางประการประกอบกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันยังไม่เอื้ออำนวยจึงให้ยกเลิกการดำเนินการ นท้ายของบันทึกปรากฏลายเซ็น พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กำกับได้ด้วย
+++ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก “ปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธุ์” อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ 7 สมัย และพวกรวม 6 คน คนละ 4 ปี ไม่รอลงอาญา คดีบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 22 ล้านบาท กรณีรุกป่าดงเค็ง บ้านจิกน้อย ม.4 ต.คูเมือง อ.คูเมือง รวมเนื้อที่ 141 ไร่ 2 งาน 61 ตารางวา หลังศาลมีคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวจำเลยทั้ง 6 คน ส่งไปคุมขังยังเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์
+++รัฐบาลท้องถิ่นของนครนิวยอร์ค เตือนประชาชนให้อยู่แต่ภายในบ้าน ถ้าหากว่ามีหิมะตกมากถึง 90 เซนติเมตร(หรือ 3 ฟุต) สภาพอากาศหนาวอาจจะส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบิน การเลื่อนเที่ยวบินและอาจจะมีการปิดสนามบินบางแห่งระหว่างวันนี้ถึงวันพรุ่งนี้ ด้านหนังสือพิมพ์ยูเอสเอ ทูเดย์ รายงานว่าประชาชนในแถบชายฝั่งของรัฐนิวเจอร์ซีไปจนถึงชายแดนติดต่อกับแคนาดา โดยเฉพาะรัฐบอสตัน นิวยอร์ค ฟิลาเดลเฟียและรัฐวอชิงตันได้เตรียมพร้อมรับมือกับพายุหิมะรุนแรง
+++ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิตภายหลังที่เขาพยายามใช้มีดแทงคนสัญจรไปมาที่บริเวณด้านนอกของพิพิธภัณฑ์ศิลปะในเมืองโกรนิงเกนทางตอนเหนือของประเทศ จนตกลงไปในคลองใกล้พิพิธภัณฑ์ ต่อมาตำรวจประกาศชายผู้นี้เสียชีวิตหลังนำตัวขึ้นมาจากน้ำ โฆษกตำรวจบอกว่า ยังไม่รู้ว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นใครและอะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เขาก่อเหตุ ซึ่งตำรวจกำลังดำเนินการสอบสวน ทั้งนี้ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ได้เฝ้าระวังขั้นสูงนับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีในกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อต้นเดือน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17ศพ
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,588.31 จุด ลดลง 10.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,749.52 ล้านบาท หลังช่วงเช้าปิดแตะระดับ 1,600 จุด ก่อนถูกแรงเทขายทำกำไร
+++ดัชนินิเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดตลาด ที่ 17,468.52จุด ลดลง43.23 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 24,909.90 จุด เพิ่มขึ้น 59.45 จุด