อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ชี้ ฟ้าทะลายโจร เสริมภูมิคุ้มกัน แต่สกัดไวรัสเข้าเซลล์ไม่ได้

20 เมษายน 2564, 17:43น.


          ประเด็นฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด19 หรือรักษาผู้ป่วยโควิดได้หรือไม่ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า มีการศึกษาในระดับนานาชาติ ทั้งจีน อินเดีย พบว่า ฟ้าทะลายโจรมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ทดลองในหลอดทดลองมีฤทธิ์ต้านไวรัสได้อย่างน่าสนใจ โดยปีที่แล้วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทดลองพบว่า เมื่อมาอยู่ในเซลล์ร่างกายจะป้องกันโคโรนาไวรัสได้หรือไม่ ปรากฏว่า ไม่สามารถป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิด และต้องมีมาตรการป้องกันโรคเช่นเดิม



          อย่างไรก็ตามเนื่องจากสารแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจรนอกจากมีฤทธิ์ฆ่าไวรัสในหลอดทดลอง และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัว อีกทั้ง ฟ้าทะลายโจรยังเป็นยาลดไข้ที่ดี อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2559 นอกจากนี้ ยังค้นพบว่า ในโควิด19 มีภาวะการอักเสบซึ่งฟ้าทะลายโจรลดการอักเสบ และส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้



          ดังนั้น กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้รับความร่วมมือจากหลายรพ.ในการศึกษาวิจัย 9 รพ. มีผู้ป่วยจำนวน 304 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยอาการน้อยให้รับประทานยาฟ้าทะลายโจรในขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งพบว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้น โดยไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง อาจมีเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือถ่ายเหลว แต่ไม่มาก จึงคิดว่าน่าจะเป็นทางเลือกในการใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ขณะเดียวกันได้ขยายการใช้ยานี้ในรพ.สนาม โดยรพ.ธรรมศาสตร์ได้นำไปใช้ เมื่อมีความก้าวหน้าจะเผยแพร่ต่อไป



          แม้จะมีประโยชน์ แต่ฟ้าทะลายโจรก็มีข้อห้ามในการใช้เช่นกัน เพราะยาไม่ใช่ขนม จำเป็นต้องใช้อย่างถูกต้อง เช่น ผู้ป่วยรายใดมีประวัติเคยแพ้ฟ้าทะลายโจร หากรับประทานครั้งแรกมีผื่นคันขึ้นต้องหยุดใช้ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตรก็ไม่ควรใช้ รวมทั้งผู้ป่วยโรคตับ โรคไตก็ต้องหลีกเลี่ยง และท่านที่มีโรคประจำตัว และรับประทานยาประจำ โดยเฉพาะยาลดการแข็งตัว อย่างยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ซึ่งเป็นยาที่จ่ายให้กับผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต หรือเส้นเลือดหัวใจตีบต้องระวัง และผู้ป่วยที่รับประทานยาลดความดันโลหิตก็ไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกัน



          ส่วนการกินฟ้าทะลายโจรเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันนั้นเป็นข้อแนะนำได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องรับประทานประมาณ 20 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน หยุด 2 วัน ต่อเนื่องไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งข้อแนะนำนี้เกิดจากการศึกษาที่ประเทศชิลี ซึ่งมีการติดตามผลผู้รับประทานฟ้าทะลายโจรเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันพบว่าเกิดติดเชื้อไข้หวัดน้อยลงอย่างชัดเจน ซึ่งก็ต้องมีการศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับยาที่ใช้ระดับนี้หากไม่มีข้อห้ามก็จะเป็นประโยชน์ได้



          ส่วนกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูลว่ากล้วยดิบบดแห้งป้องกันโควิดได้นั้นไม่เป็นความจริง หรือแม้แต่น้ำมะนาวกลั้วคอป้องกันโควิด ก็ไม่เป็นความจริง ส่วนสมุนไพรอื่นๆ เช่น กระชาย แม้มีการศึกษาและได้ผลลัพธ์คล้ายคลึงฟ้าทะลายโจร แต่ก็ยังไม่สามารถออกแบบกระชายให้สะดวกต่อการรับประทานในระดับยาที่สูงพอในการต้านไวรัสได้เพราะค้นพบว่า กระชายครึ่งกิโลกรัมถึงจะทำให้การรับประทานต่อครั้งไปต้านไวรัส แต่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ จึงต้องมีการศึกษา เช่นเดียวกับกัญชาก็อาจเป็นทางเลือกในอนาคต แต่ปัจจุบันยังใช้ไม่ได้

ข่าวทั้งหมด

X