นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ WHO ในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ แสดงความมั่นใจว่า ทุกประเทศทั่วโลกจะประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในปัจจุบัน เรามีเครื่องมือสำคัญคือวัคซีนที่สามารถจะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มั่นใจว่าโครงการ COVAX ของ WHO จะเดินหน้าแบ่งปันวัคซีนอย่างสม่ำเสมอและเป็นธรรมให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลางทั่วโลก
นพ.กีบรีเยซุส แสดงความกังวลเรื่องอัตราความเร็วในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหมู่คนวัยทำงานอายุ 25-59 ปี เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ที่ระบาดอย่างรวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก เขาตั้งข้อสังเกตว่าในระยะแรกๆ โรคโควิด-19 แพร่ระบาด 9 เดือน จึงมีคนเสียชีวิต 1 ล้านราย แต่ในระยะหลังๆมานี้อัตราการระบาดเริ่มสั้นลง แต่มีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น 4 เดือนที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ล้านราย และ 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอีก 3 ล้านราย
ด้านน.ส.เกรตา ทุนเบิร์ก ชาวสวีเดนวัย 18 ปี นักรณรงค์เพื่อลดภาวะโลกร้อนทั่วโลก ซึ่งร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากสวีเดน ตำหนิแนวคิดชาตินิยมเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนว่าสวนทางกับแนวคิดการกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรม ทั้งมองปัญหาความเหลื่อมล้ำในการกระจายวัคซีนว่าเกิดจากความสำนึกทางจริยธรรม เช่น ชาติที่ร่ำรวยมุ่งให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงต่ำเช่น กลุ่มคนรุ่นหนุ่มสาวให้ครบทุกคนก่อนแบ่งปันวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุในประเทศกำลังพัฒนา
เธอเสนอความเห็นว่าแนวทางการกระจายวัคซีนที่ถูกต้องคือ การจัดลำดับความสำคัญเช่นกระจายวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงสูงเช่น ผู้สูงอายุก่อนกลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าผู้สูงอายุดังกล่าวจะอาศัยอยู่ในประเทศร่ำรวยหรือประเทศยากจนก็ตาม ทั้งเชื่อมโยงปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 กับปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ทำลายสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อนทั่วโลกว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เชื้อไวรัสร้ายแรง กระโดดข้ามสายพันธุ์จากการระบาดในสัตว์มาสู่การระบาดในคนอย่างง่ายดาย
Cr: Reuters