ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.วันอังคารที่ 20 เมษายน 2564

คลัง เสนอครม.ขยายเวลาโครงการ ‘เราชนะ’ อีก 1-2 เดือน

         รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ 20 เม.ย.64 กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอการขยายเวลาโครงการ เราชนะ ออกไปอีก 1 เดือน หรือสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.64 จากเดิมที่จะสิ้นสุด 31 พ.ค.64 ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางออกไปใช้จ่ายได้ ในช่วงโควิดระบาดรอบใหม่เดือนเม.ย.64

         ขณะเดียวกัน รายงานอีกด้านระบุว่า จะเสนอต่ออายุโครงการดังกล่าวอีก 1-2 เดือน จากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.64 เป็นสิ้นสุดเดือน มิ.ย.-ก.ค.64 ซึ่งจะใช้วงเงิน 100,000-200,000 ล้านบาท โดยจ่ายตรงให้กลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้น้อยและดำเนินการต่อเนื่องได้เร็ว

         สำหรับโครงการนี้เป็นการช่วยเหลือประชาชนด้วยการจ่ายเงินเยียวยาให้คนที่มีอาชีพอิสระคนละ 3,500 บาทต่อเดือน รวม 2 เดือน มีผู้ได้รับ 30,000,000 คน รวมวงเงิน 210,000 ล้านบาท

         น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ผลกระทบเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ว่าจำเป็นต้องมีมาตรการออกมาดูแลประชาชนเพิ่มเติมในช่วงใด เนื่องจากขณะนี้ยังมีโครงการเราชนะ ซึ่งยังเหลือเม็ดเงินรอการเบิกจ่ายอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท รวมถึงมาตรการ ม33 เรารักกัน ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งยังเบิกจ่ายเงินไม่หมดและยังเพียงพอที่จะดูแลเศรษฐกิจในช่วงเดือนพ.ค.64

         ทั้งนี้ หาก ครม.เห็นชอบในหลักการให้มีมาตรการเยียวยาประชาชนรอบใหม่ก็ต้องเสนอเรื่องให้คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯ พิจารณาก่อนเสนอให้ครม.พิจารณาอีกครั้ง

ผอ.สำนักงบฯ เผย "งบกลาง-เงินกู้" ใช้เยียวยาโควิดฯ ได้อีก 2.6 แสนล้าน

         นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ปัจจุบันวงเงินที่ใช้เยียวยาประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 เหลืออยู่ประมาณ 300,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

1.เงินกู้ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเหลืออยู่ 200,000 ล้านบาท

2.งบกลางในปี 2564 ซึ่งเดิมตั้งงบกลางไว้ 139,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

-งบกลางรายการสำรองจ่าย ในกรณีฉุกเฉินและจำเป็น 99,000 ล้านบาท ปัจจุบันใช้แล้ว 19,000 ล้านบาท คงเหลือ 80,000 ล้านบาท

-งบกลางในส่วนโควิด-19 จำนวน 40,000 ล้านบาท คงเหลือ 20,000 ล้านบาท โดย 20,000 ล้านบาทที่ใช้ไป รัฐบาลใช้มัดจำซื้อวัคซีนและเพิ่มค่าตอบแทนให้บุคลากรทางการแพทย์

         รวมแล้วงบกลางที่คงเหลือ 2 ส่วนสามารถใช้ได้ 100,000 ล้านบาท หากนำไปเยียวยาประชาชนคงใช้ 50,000-60,000 ล้านบาท เพราะต้องกันบางส่วนไว้รองรับภัยพิบัติจากภัยแล้ง น้ำท่วม หรืออื่นๆ 40,000-50,000 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อรวมเงินกู้ที่เหลือและงบกลางที่ใช้เยียวยาประชาชนได้ จะอยู่ที่ 250,000-260,000 ล้านบาท

นายกฯ ขอบคุณ 40 ซีอีโอบริษัทยักษ์ ช่วยแนะรับมือโควิด          

         พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า หอการค้าไทย ประชุมร่วมระหว่างกรรมการหอการค้าไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทใหญ่ของไทยกว่า 40 บริษัท จากทุกภาคอุตสาหกรรม โดยประเด็นหลักเพื่อหารือความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยใช้ศักยภาพและความพร้อมของภาคเอกชนผนึกกับภาครัฐ นายกฯ ขอบคุณทุกคนเป็นอย่างมากที่มีความตั้งใจที่ดี และพร้อมร่วมมือกันอย่างบูรณาการเพื่อช่วยประเทศ ในส่วนตัวรอที่จะได้รับฟังผลการประชุม ความคิดเห็นและคำแนะนำ มีรายงานว่า ซีีอีโอ ที่เข้าร่วมหารือ เช่น        

          • บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น

          • บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป

          • บมจ.ดุสิตธานี

          • บมจ.เดอะมอลล์ กรุ๊ป

          • บจก.โตชิบา ไทยแลนด์

          • บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น

          • บจก.ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม

          • บจก.ไทยน้ำทิพย์

          • บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ

          • บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป

          • บมจ.ไทยวิวัฒน์ประกันภัย

          • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

          • ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

          • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

          • ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)

          • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

          • บมจ.บี.กริม เพาเวอร์

          • บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล

          • บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์

          • COSO Foods Thailand & Vietnam of Pepsi Cola (Thai) Trading Co., Ltd.

          • บจก.เมืองไทยประกันภัย

          • บจก.ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง

          • บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา

          • บจก.โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท

          • บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

          • บจก.ไลน์ ประเทศไทย

          • บจก.สยามพิวรรธน์

          • บจก.สิงห์ คอร์เปอเรชั่น

          • บจก.หลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์

          • บจก.เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม (เทสโก้ โลตัส ประเทศไทย)

          • บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น

          • บจก.ไอบีเอ็ม ประเทศไทย (IBM)

          • บมจ. เอ็ม บี เค (MBK Group)

          • บจก.เฟซบุ๊ก (ประเทศไทย)

          • บจก.กูเกิล (ประเทศไทย)

เกณฑ์ใหม่ บัตรคนจน ต้องเปิดข้อมูล

         กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนคนไทยทั้งหมด เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันและทันสมัยที่สุด ซึ่งจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด หลังสถานการณ์การระบาดของเชื้อ โควิด-19 คลี่คลาย

         น.ส.กุลยา กล่าวว่า การรับสมัครเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการรอบใหม่ รวมทั้งการทบทวนสิทธิของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปัจจุบันอยู่ที่ 13,800,000 คน จะมีการปรับเพิ่มเงื่อนไขบางประการ เช่น การยินยอมเปิดเผยข้อมูลรายได้ของครอบครัว เป็นต้น ทั้งนี้ หากฐานข้อมูลพร้อม ก็จะสามารถดูได้ว่า ประชาชน 1 คน ได้รับความช่วยเหลืออะไรจากรัฐบาลไปบ้าง และจำเป็นต้องรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมผ่านสวัสดิการของหน่วยงานอื่นอีกมากน้อยแค่ไหน ให้ได้รับสิทธิที่เหมาะสม และเป็นการช่วยเหลือได้ตรงจุด

เนื่องจาก ในอดีตไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ที่ได้สวัสดิการ มีสถานะการเงินทั้งของตัวเองและครอบครัวเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร

        ในการลงทะเบียนที่ผ่านมาไม่ได้ขอให้ผู้ลงทะเบียนยินยอมเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว แต่การลงทะเบียนใหม่จะต้องกดยินยอมเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีการอัพเดตข้อมูลใหม่ทุกปี หากพบผู้ที่ได้รับสิทธิหรือครอบครัว มีรายได้เพิ่มขึ้นและเกินกว่าที่กำหนด ก็จะตัดสิทธิออกจากระบบ รวมทั้งเปิดให้ผู้ที่มีรายได้ลดลงและเข้าเกณฑ์เงื่อนไขได้ลงทะเบียนเพื่อเข้ารับสวัสดิการดังกล่าว

คนไทยวีซ่าขาด ข้ามด่านสะเดา สงขลา

         บริเวณด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา กลุ่มคนไทยในประเทศมาเลเซียและวีซ่าขาด มีจำนวน 300 คน กรณีอาศัยแบบผิดกฎหมายที่ต้องทยอยเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวานนี้ 19 เม.ย.64 เดินทางกลับ 119 คน และวันที่ 21 เม.ย.64เดินทางกลับ 181 คน หลังจากที่รัฐบาลประเทศมาเลเซีย ประกาศมาตรการขั้นเด็ดขาดกรณีคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศเกินระยะเวลาที่กำหนด จะต้องเดินทางออกจากประเทศมาเลเซีย ภายในวันที่ 21 เม.ย. 64

        นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าฯสงขลา กล่าวว่า กลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับต้องผ่านกระบวนการคัดกรองโควิด-19 สูงสุดจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ กรณีกลุ่มเสี่ยงเป็นไข้จะถูกคัดแยกส่งต่อไปโรงพยาบาลทันที มีรถพยาบาลฉุกเฉินมาเตรียมพร้อมที่ด่าน ส่วนอาการปกติก็จะส่งไปกักตัวที่โรงแรมสยามธนา บ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ส่วนคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียอย่างถูกต้องสามารถลงทะเบียนเดินทางกลับประเทศทางด่านพรมแดนสะเดาได้สัปดาห์ละ 3 วัน คือ ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์

เลขาฯ สมช. ให้มหาดไทย รายงานสรุปตัวเลข

         พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบความพร้อมรับแรงงานกลับประเทศในพื้นที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เพียงหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ต้องดูแลเท่านั้น แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามด้านชายแดนสงขลาและนราธิวาส พล.อ.ณัฐพล ยืนยันว่า ขณะนี้มีความพร้อมในการรับแรงงานไทยกลับจากประเทศมาเลเซีย เนื่องจากมี Local Quarantine

นายกฯ ส่ง รมว.กต ร่วมประชุมผู้นำอาเซียนที่จาการ์ตา

        การจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 24 เม.ย.64 การประชุมครั้งนี้เป็นที่จับตาจากหลายประเทศอย่างมาก เนื่องจาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา เตรียมเดินทางไปร่วมประชุมด้วย และเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำทหารเมียนมา ภายหลังจากทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน เมื่อวันที่ 1 ก.พ.64

         ในส่วนของไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่เข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษนี้แล้ว โดยมอบหมายให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประชุม

กองกำลังผาเมือง สั่งเฝ้าติดตามแนวชายแดน หวั่นลุกลาม

         ขณะที่ฝั่งของเจ้าหน้าที่ทหารไทย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ซึ่งดูแลรับผิดชอบชายแดนด้านจังหวัดเชียงราย สั่งให้ทุกฐานปฏิบัติการตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง เฝ้าระวังและตรึงพื้นที่ตามแนวชายแดนตลอดแนว เพื่อเตรียมพร้อม หากว่ามีกระสุนข้ามเข้ามาตกในฝั่งไทย และทบทวนแผนที่จะรองรับหากว่ามีประชาชนจากฝั่งเมียนมาอพยพหนีภัยสงครามเข้ามาในพื้นที่ไว้แล้ว