ศธ.คงเปิดเทอมตามเดิม 17 พ.ค. รอประเมินตามสถานการณ์โควิด-19

          หลังการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปให้การเปิดภาคเรียนยังคงเป็นไปตามกำหนดเดิม คือ วันที่ 17 พ.ค. 2564 แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ยังไม่ดีขึ้น อาจจะเสนอให้มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปเป็นวันที่ 1 มิ.ย. 2564 แต่ทั้งนี้การพิจารณาจะต้องขึ้นอยู่กับ ศบค.พิจารณา โดย ศธ.จะขอประเมินตามสถานการณ์อีกครั้งด้วย

          ส่วนการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น ม.1 และ ม.4 ว่า ที่ประชุมได้รับรายงานจากโรงเรียนแต่ละแห่ง ว่า ขณะนี้เปิดรับสมัครผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทั้งนี้ในวันที่ 1 พ.ค. 2564 ที่กำหนดเป็นวันสอบเข้าเรียน ได้กำชับให้โรงเรียนวางมาตรการอย่างเข้มข้น และปฏิบัติตามมาตรการของ สธ. อย่างเคร่งครัด ขณะที่วันประกาศผลสอบและสอบสัมภาษณ์ให้โรงเรียนจัดแบ่งกลุ่มนักเรียน เพื่อลดการรวมตัว

          สำหรับการรับนักเรียนของโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง มีนักเรียนสนใจสมัครเข้าศึกษาต่อเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องคัดเลือกด้วยวิธีการสอบ ที่ประชุมได้วางแนวทางเกี่ยวกับการจัดการทดสอบ โดยผู้เข้าสอบจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของ สธ. จัดห้องสอบให้ห่างกัน และสำหรับโรงเรียนใดที่มีผู้สมัครจำนวนมาก และห้องสอบไม่เพียงพอก็สามารถใช้โรงเรียนบริเวณใกล้เคียงเป็นสนามสอบได้ เพราะในแต่ละจังหวัดจะมีโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนแข่งขันสูงอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น โดยตนจะนำเรื่องการสอบเข้า ม.1 และ 4 เสนอให้ ศบค.พิจารณาในการอนุมัติการสอบต่อไป

          น.ส.ตรีนุช ยอมรับว่า  จากสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ยังไม่สามารถประกาศการจัดสอบบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ.ได้ทันใช้ในวันเปิดภาคเรียนที่ 1 แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลายแล้ว สพฐ. จะประกาศการจัดสอบอีกครั้ง ทั้งนี้มั่นใจว่าจะได้ครูผู้สอนทันใช้ในภาคเรียนที่ 2 เดือนต.ค.นี้อย่างแน่นอน

          ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ขณะนี้ สพฐ.เตรียมความพร้อมเรื่องการเรียนการสอนออนไลน์เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ยังไม่ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ สพฐ.มีทางเลือกให้เด็กเรียนอย่างหลากหลายทั้งรูปแบบ ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความถนัดหรือจะเลือกเรียนแบบผสมผสานก็ได้ ไม่ว่าสถานการณ์โควิดจะเป็นอย่างไร เด็กต้องได้เรียนอย่างเต็มที่