นายกฯ เร่งออกมาตรการกระตุ้นศก.ใช้งบฯอย่างมีประสิทธิภาพ
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความมั่นใจมาตรการของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค.ที่มีมติให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วประเทศ และปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ที่จะเดินทางกลับหลังเทศกาลสงกรานต์ รัฐบาลตัดสินใจหลีกเลี่ยงที่จะออกมาตรการล็อกดาวน์ หรือเคอร์ฟิว เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนมากเกินไป แต่รัฐบาลยังต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอีกครั้งร่วมมือกันปฎิบัติตามมาตรการที่ ศบค.กำหนดอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะยังสามารถขยายตัวได้ในปีนี้ เนื่องจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งภายในปีนี้ ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 63 ล้านโดส ที่รัฐบาลได้สั่งจองไปแล้ว และที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 10 ล้านโดส สำหรับใช้ในสถานพยาบาลของรัฐ รวมทั้งวัคซีนทางเลือกเพื่อนำมาให้บริการในโรงพยาบาลเอกชน จึงสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามที่วางแผนไว้ คือ ประชาชนในประเทศไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคนภายในปีนี้
ขณะที่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดในระลอกนี้ รัฐบาลยังมีเงินเกือบ 3.8 แสนล้านบาท สำหรับนำมาใช้เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ แยกเป็นเงินจำนวน 2.4 แสนล้านบาทจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเงินจากงบกลางปี 2564 ในส่วนของเงินสำรองจ่ายเพื่อการฉุกเฉินและจำเป็นอีก 98,500 ล้านบาท และงบสำหรับบรรเทาโควิด-19 อีก 36,800 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
แฟ้มภาพ
ประจวบ เจออีก 22 คน จากผับหัวหิน
นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นพ.สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 22 คน ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อการระบาดระลอกใหม่รวม 771 คน เป็นการระบาดจากคลัสเตอร์ใหญ่มาจากผับ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 64 และ ร้านคาราโอเกะอีกหลายแห่งใน อ.หัวหิน และ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาล 703 คน ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 8 คน ทำให้มีคนหายป่วยแล้ว 67คน ขณะเดียวกันมีผู้ป่วยมีอาการรุนแรง 6 คน มีอาการปานกลาง 4 คน มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลหัวหิน เป็นผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 61 ปี ชาว อ.หัวหิน ติดเชื้อจากญาติที่เดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงเข้ารับการรักษาวันที่ 11 เม.ย. 64 นับเป็นผู้เสียชีวิตที่ศบค.รายงานวันนี้ ผู้ป่วยเสียชีวิตมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน และไทรอยด์ จากนั้นมีอาการเต้นของหัวใจผิดปกติวันที่ 15 เม.ย.64 แพทย์นำตัวเข้าห้องไอซียูและเสียชีวิต
ประธานสภาฯ ขออย่าพึ่งวัคซีนอย่างเดียว ต้องพึ่งตัวเอง กลุ่มสภาฯลงชื่อฉีดแล้ว 200 คน
มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในรัฐสภา จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักระลอกใหม่ ภายหลังจากหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้สั่งการไปหมดแล้ว โดยให้เพิ่มความเข้มงวด และมีการทำงานจากบ้าน หรือเวิร์ก ฟอร์ม โฮม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้าราชการสภาฯคนใดติดเชื้อ
ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับส.ส. ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สภาฯนั้น ได้ดำเนินการระหว่างวันที่ 16-30 เม.ย. 64 โดยมีผู้เข้าชื่อแจ้งความประสงค์สมัครใจจะฉีดประมาณ 200 คน แต่จากการสอบถาม รองนายกรัฐมนตรีโดยตรงทราบว่ามีแพทย์ในพื้นที่ต่างจังหวัดยังไม่ได้ฉีด เพราะวัคซีนไม่เพียงพอ แต่เชื่อว่าเมื่อกระบวนการผ่านคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วก็น่าจะทั่วถึง เพราะเท่าที่รับฟังทราบว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ก็น่าจะฉีดวัคซีนได้หมด
นายชวน กล่าวว่า ส่วนตัวจะรอให้บุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีนให้ครบก่อนทุกคน ซึ่งได้สอบถามไปว่าเขาจะได้ฉีดกันเมื่อไหร่ เขาก็บอกว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ไม่เช่นนั้นจะหาว่า นักการเมืองเอาไปก่อน ขณะที่บุคลากรผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อยังไม่ได้ฉีด ฉะนั้น จึงรอให้เขาเรียบร้อยก่อน เห็นใจ ส.ส. ที่มีความเสี่ยง เพราะสัมผัสคนเยอะ และไปออกงานต่างๆ เกือบทุกวัน แต่คนที่เสี่ยงกว่าพวกเราก็มี คือบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นแนวหน้า
ทั้งนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือทุกคนอย่าหวังพึ่งวัคซีนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพึ่งตัวเอง หลีกเลี่ยงไม่ไปอยู่ในเหตุการณ์ที่อาจจะติดเชื้อได้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและช่วยสังคมส่วนรวม ส่วน ส.ส.ฉีดแล้วเมื่อพบกับชาวบ้านเขาจะมั่นใจหรือไม่ ผมมองว่าชาวบ้านไม่ได้สนใจว่า ส.ส.ฉีดหรือไม่ฉีด เพราะอยากมาจับมือและอยากมาอยู่ใกล้มากกว่า
เจอเชื้อกลายพันธุ์ ฮ่องกง ระงับการบินจาก อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์
รัฐบาลฮ่องกง กล่าวว่า อินเดีย ฮ่องกงและปากีสถาน ถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงอย่างยิ่ง หลังจากพบผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศหลายคนที่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่เดินทางมายังฮ่องกงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา สายการบินที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งระงับการบินจากอินเดีย ปากีสถานและฟิลิปปินส์ครั้งนี้ รวมถึงคาเธย์แปซิฟิก ฮ่องกงแอร์ไลนส์ วิสตาราและเซบู แปซิฟิก เริ่มมีผลในวันพรุ่งนี้ เมื่อวานนี้ ฮ่องกงรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 30 คน ซึ่งเป็นตัวเลขรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 64 ในจำนวนนี้ 29 คน เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อสะสม 11,600 คน และเสียชีวิต 209 ราย เจ้าหน้าที่ฮ่องกงพยายามขอให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่มีประชาชนเพียงร้อยละ 5 ของประชากร 7.5 ล้านคนที่เข้ารับวัคซีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลฮ่องกงขยายโครงการฉีดวัคซีนโดยจะฉีดให้กับประชาชนที่มีอายุระหว่าง 16-29 ปี เป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้เข้ารับวัคซีนให้มากขึ้น
เริ่มมีผลแล้ว travel bubble ระหว่างนิวซีแลนด์-ออสเตรเลีย
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์และนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริซันของออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่าชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สามารถจะเดินทางระหว่างประเทศทั้งสองได้อย่างเสรีเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปีตามโครงการทราเวล บับเบิล(travel bubble)หรือเดินทางไปมาระหว่างกันโดยไม่ต้องกักกันเฝ้าระวัง 14 วันเริ่มมีผลบังคับในวันนี้ คาดว่า โครงการนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั้งสองกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังปิดชายแดนตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน
ผู้โดยสารส่วนใหญ่รู้สึกตื่นเต้น หลายคนไปรอที่สนามบินต่างๆของออสเตรเลียตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวหรือเพื่อนๆในนิวซีแลนด์ บรรยากาศที่อาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบินระหว่างประเทศในนครซิดนีย์ ผู้โดยสารค่อนข้างแออัดกว่าปกติ ผู้โดยสารจำนวนมากเข้าแถวยาวรอเช็คอิน ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนขึ้นเครื่องบิน บีบีซี คาดว่า วันนี้จะมีประชาชนหลายพันคนเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศ
ด้านผู้ประกอบการธุรกิจการบินและการท่องเทียวระหว่างประเทศทั้งสองต่างรู้สึกยินดีที่รัฐบาลของทั้งสองประเทศริเริ่มโครงการนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาเริ่มทำธุรกิจตามปกติ โดยเฉพาะสายการบินหลักๆเช่น แควนตัส, เจ็ตสตาร์ของออสเตรเลียและแอร์ นิวซีแลนด์ สายการบินแห่งชาติของนิวซีแลนด์เริ่มให้บริการด้านการบินระหว่างประเทศทั้งสองตามปกติตั้งแต่วันนี้
ก่อนหน้านี้ผู้โดยสารจากนิวซีแลนด์สามารถเดินทางเข้ามาที่รัฐส่วนใหญ่ของออสเตรเลียภายใต้โครงการ travel bubble โดยไม่ต้องกักกัน 14 วัน ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน แต่ในฝั่งออสเตรเลียยังไม่อนุญาตให้ประชาชนเดินทางเข้าไปที่นิวซีแลนด์ เนื่องจากยังรู้สึกกังวลใจที่นิวซีแลนด์พบกลุ่มก้อนติดโรคโควิด-19 มาเป็นระยะๆเรื่อยมา