ทำแผน คนร้ายชิงทองหาดใหญ่ เผยไม่มีเงินใช้หนี้ขับรถชน

          หลังจากที่ตำรวจจับกุม พลทหารอุกฤษณ์ ทองสมสี อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์สังกัดกองรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือสงขลา คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองในร้านทองห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้แล้วในวันนี้

          พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า จากการสอบสวน พลทหารอุกฤษณ์ อ้างว่าเป็นหนี้และเงินเดือนไม่พอใช้จ่าย เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ไปขับรถชนคนและต้องจ่ายเงินให้คู่กรณี 2 แสนบาท โดยทยอยจ่ายมาเรื่อย แต่พักหลังขาดส่งไปหลายเดือน เพราะเงินเดือนไม่พอกับค่าใช้จ่าย จึงคิดวางแผน โดยได้ไปเช่ารถเก๋งมาก่อเหตุ ซึ่งช่วงลงมือไม่ได้มีการวางแผนหรือดูลาดเลามาก่อน เพราะเคยมาใช้บริการที่ร้านทองแห่งนี้อยู่แล้ว จึงรู้เส้นทางเป็นอย่างดี เมื่อสบโอกาสจึงลงมือก่อเหตุ ส่วนสร้อยคอทองคำที่ได้ไปคนร้ายบอกว่าไม่ได้นับว่ามีกี่เส้นและได้นำไปขายและจำนำไปบางส่วน ซึ่งจำนวนทองที่ทางร้านทองแจ้งไว้จำนวน 14 เส้น หนัก 3 บาท 9 เส้น และ 4 บาท 5 เส้น รวมน้ำหนักทอง 47 บาท หลังจากนี้ก็จะต้องไปสอบสวนขยายผลทองที่เหลือ เพราะตำรวจยึดคืนมาได้แค่ 10 เส้นเท่านั้น ส่วนของกลางที่ใช้ก่อเหตุตำรวจยึดได้หมดทั้งอาวุธปืน .38 และเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ จากการตรวจสอบประวัติพลทหารอุกฤษณ์ พบว่าเคยถูกจับกุมในคดีชิงทรัพย์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2558 มาแล้ว 1 ครั้ง 

          ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัว พลทหารอุกฤษณ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุที่ร้านทองเกิดเหตุในห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ โดยมีการจัดกำลังดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ

          เริ่มจากจุดที่ พลทหารอุกฤษณ์ ขับรถเก๋งมาจอดไว้ที่ลานจอดรถ เดินเข้าห้างทางประตูหน้า ลงชื่อจุดคัดกรองโควิด ผ่านจุดตรวจค้นของรปภ. ซึ่งค้นเฉพาะกระเป๋าสะพายแต่ไม่ได้ค้นตัว ซึ่งพกอาวุธปืนเหน็บไว้ที่เอว จากนั้นขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ร้านทองห้างทองเยาวราชกรุงเทพ แต่มีลูกค้าอยู่จึงเดินวนไปก่อน โดยไปเข้าห้องน้ำและเดินวนมาขึ้นบันไดเลื่อนอีกรอบและลงมือก่อเหตุตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ จากนั้นจึงออกจากห้างไปขึ้นรถเก๋งที่จอดไว้ที่ลานจอดรถขับหลบหนี

          หลังทำแผน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว พลทหารอุกฤษณ์ ไปควบคุมตัวที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมและเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป