นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี ขอให้รัฐสภาของเยอรมนีอนุมัติร่างกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งมอบอำนาจให้รัฐบาลท้องถิ่นทั้ง 16 รัฐใช้ดุลพินิจประกาศมาตรการห้ามประชาชนออกจากเคหสถานในยามค่ำคืนหรือเคอร์ฟิว หรือมาตรการล็อกดาวน์ปิดห้าง ปิดศูนย์วัฒนธรรมและศูนย์กีฬาท้องถิ่น รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านหรือทำงานที่บ้าน ถ้ารัฐบาลท้องถิ่นประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในท้องถิ่นแล้วเห็นว่าการแพร่ระบาดในท้องถิ่นมีแนวโน้มสูงอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยใหม่ในรอบหนึ่งสัปดาห์มากกว่า 100 คน ต่อประชากร 100,000 คน
นางแมร์เคิล กล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกที่ 3 ของโรคโควิด-19 ในเยอรมนีในขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤติ ในแต่ละวัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำห้องไอซียูขอส่งสัญญาณฉุกเฉินให้แพทย์เข้ามาช่วยเหลือคนไข้ฉุกเฉินคนแล้วคนเล่า การจะหาทางหยุดยั้งการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 ทุกฝ่ายทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจะต้องร่วมมือร่วมใจ ประสานงานให้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม พร้อมเตือนประชาชนทุกคนให้ตระหนักถึงความร้ายแรงของโรคโควิด-19 และทำตามมาตรการป้องกันโรคอย่างจริงจัง
โดยในระหว่างที่ นางแมร์เคิล กล่าวต่อที่ประชุม เธอถูกโห่ขัดจังหวะเป็นระยะๆ จากสส.พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AFD) พรรคฝ่ายค้าน ซึ่งมีแนวคิดขวาจัด และคัดค้านมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ฝ่ายที่สนับสนุนร่างกฎหมายนี้เห็นว่า เป็นมาตรการจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐสภาควรลงมติรับรองโดยเร็ว เพิ่มเติมว่าแม้แต่การรอให้วุฒิสภาประชุมลงมติในวันพุธหน้า ก็อาจจะล่าช้าเกินไป
เยอรมนีพบผู้ป่วยใหม่ 25,831 คนในวันนี้ ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,095,016 คน เสียชีวิต 80,141 ราย เป็นศูนย์กลางอันดับที่ 10 ของโลก
Cr: BBC, newwestrecord