ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30น.วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564

16 เมษายน 2564, 12:52น.



ศบค.พิจารณาพื้นที่สีแดง-ส้ม ต้องปิดสถานบันเทิง ห้ามจำหน่ายสุรา ในร้านอาหารทุกจังหวัด





         พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อหารือมาตรการควบคุมโควิด-19 โดยจะหารือมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และภายหลังการประชุมโฆษกศบค.จะแถลงผลการประชุมในเวลาประมาณ 16.00 น.



1.พื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดเป็นสีแดง 18 จังหวัด



-เปิดร้านอาหารได้ถึงเวลา 21.00 น.

2.พื้นที่ควบคุมสีส้ม 59 จังหวัด



-เปิดร้านอาหารได้ถึงเวลา 23.00 น.



       ส่วนมาตรการอื่นๆทั้งพื้นที่สีแดงและสีส้ม ต้องปฏิบัติเหมือนกันในทุกจังหวัด เช่น



-ปิดสถานบริการในลักษณะผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด



-ห้ามจำหน่ายสุราและห้ามดื่มในร้านอาหารทุกจังหวัด



-งดการเรียนการสอน



ติดเชื้อครบ 77 จังหวัดแล้ว กทม.พบรายใหม่ 312 คน  




         นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวันที่ 16 เม.ย.64



1.ผู้ป่วยรายใหม่ 1,582 คน แบ่งเป็น



- จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 921 คน



- จากการค้นหาเชิงรุก 656 คน



- จากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน  5 คน



2.ผู้ป่วยสะสม 39,038  คน



3.รักษาหายแล้ว 28,480  คน



4.เสียชีวิตสะสม 97 ราย



-กรุงเทพมหานคร มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 312 คน มีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงและกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงกับผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิง



-ภาพรวมทั้งประเทศ มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 77 จังหวัดแล้ว  โดยจังหวัดอื่นๆ ที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน เช่น 



- จังหวัดเชียงใหม่ มีคลัสเตอร์กลุ่มค่ายอาสานักศึกษา ทำให้มีผู้ติดเชื้อกระจายไปยัง 13 จังหวัด



 -จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มคลัสเตอร์ร้านอาหาร



- จังหวัดนครสวรรค์ กลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง กระจายไป 2 จังหวัด



- จังหวัดนนทบุรี กลุ่มคลัสเตอร์งานสัมมนา บริษัทในรีสอร์ท ทำให้มีผู้ติดเชื้อกระจาย 8 จังหวัด



- จังหวัดกาญจนบุรี กลุ่มคลัสเตอร์โรงเรียน



- จังหวัดสงขลา กลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง และงานเลี้ยงรุ่น



- จังหวัดนครศรีธรรมราช จากการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคน และงานบวช



สหรัฐฯเตรียมฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 ปีหน้า กระตุ้นภูมิคุ้มกันโควิด



          ทำเนียบขาว สหรัฐฯ เปิดเผยว่ากำลังเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์เข็มที่ 3 ในปีหน้าเพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยจะต้องฉีดวัคซีนในระหว่าง 9 ถึง 12 เดือนหลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแรก เมื่อวันที่ 1 เม.ย.64 นายอัลเบิร์ต เบอลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ เปิดเผยว่าหลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแรกแล้ว จะต้องมีการฉีดเข็มที่ 3 ภายในเวลา 12 เดือนและอาจต้องได้รับการฉีดวัคซีนทุกปี โดยยังมีความเห็นสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และการกลายพันธุ์อาจทำให้จำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนทุกปี เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ประจำปี



         ด้าน ดร.โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวกับคณะอนุกรรมาธิการรัฐสภาว่ากำลังติดตามการติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว โดยพบว่าในกลุ่มผู้ที่รับวัคซีนครบแล้ว 77 ล้านคน มีผู้ที่ติดเชื้อ 5,800 คน โดยมีอยู่ 396 คนที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิต 74 ราย ในเบื้องต้น พบว่า ไม่มีการสร้างภูมิคุ้มกัน และที่น่ากังวลก็คือในบางกรณีจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์  



6 วันสงกรานต์ ยอดตาย พุ่ง 238 ราย 'เมาแล้วขับ' สูงสุด



         สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เม.ย.64 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า เกิดอุบัติเหตุ 313 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 29 ราย ผู้บาดเจ็บ 310 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 31.31 ขับรถเร็ว ร้อยละ 30.35 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 88.79 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 61.66 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 43.13 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 30.67 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 25.56 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 40-49 ปี ร้อยละ 15.63



         ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,905 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 59,218 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 377,754 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 231,838 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 17,318 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 16,505 ราย



         จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (15 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา ระยอง หนองคาย (จังหวัดละ 2 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ปราจีนบุรี (15 คน)



         สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (10-15 เม.ย. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,113 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 238 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,116 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 8 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (91 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด เชียงใหม่ (9 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (96 คน)




 




 

ข่าวทั้งหมด

X