ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30 น.วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564

16 เมษายน 2564, 06:07น.


วิกฤตหนัก! ผู้ป่วยโควิด-19 อินเดีย ต้องนอนเตียงเดียวกัน



         สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอินเดีย วิกฤตอย่างหนัก จากที่เมื่อช่วงต้นปี ผู้ติดเชื้อไม่ถึงวันละ 10,000 คน ตอนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งไปอยู่ที่กว่าวันละ 200,000 คน นับเป็นสถิติสูงที่สุดในโลก



         เมื่อจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น ปัญหาที่ตามมาคือเตียงโรงพยาบาลไม่เพียงพอรับคนไข้ ที่กรุงนิวเดลี โรงพยาบาล ลอค นายัค ชยาปรากาช นารายาน ในกรุงนิวเดลี ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์รับผู้ป่วยโควิดใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งมีเตียงมากกว่า 1,500 เตียง ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นได้ จนคนไข้ทะลักแผนกฉุกเฉิน ผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดเป็นเพียงทารกแรกเกิดเท่านั้น



         นายสุเรช กุมาร ผู้อำนวยการการแพทย์ของโรงพยาบาล ลอค นายัคฯ เปิดเผยว่า กำลังแบกรับภาระมากเกินไป เราทำงานเต็มขีดความสามารถแล้ว เตียงสำหรับผู้ป่วยวิกฤตที่เดิมมี 54 เตียง ตอนนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 300 เตียงแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ผู้ป่วยที่ไม่ใช่ญาติต้องนอนเตียงเดียวกัน ศพผู้เสียชีวิตต้องถูกวางไว้หน้าวอร์ด เพื่อรอเจ้าหน้าที่มารับไป



         สถานพยาบาลในรัฐอื่นๆ รวมถึงที่รัฐคุชราต ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เริ่มขาดแคลนออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย หัวหน้าองค์กรแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด ระบุในจดหมายที่ส่งถึงมุขมนตรีรัฐคุชราต ว่าหากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป จะทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแน่นอน



         รัฐบาลกลางอินเดีย ยืนยันว่า โรงงานต่างๆ ผลิตออกซิเจนอย่างเต็มที่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และได้เพิ่มกำลังผลิตให้มากขึ้นด้วย



         ขณะเดียวกัน ผู้แสวงบุญชาวฮินดูนับล้านคนก็ยังคงไปรวมตัวกันที่ริมแม่น้ำคงคาเพื่อประกอบพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ในเทศกาลกุมภเมลา โดยแทบไม่มีการเว้นระยะห่างหรือสวมหน้ากากอนามัย



         เมื่อปีที่แล้ว อินเดีย ใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดที่สุดในโลกนานเกือบ 3 เดือน เมื่อช่วงต้นปีรัฐบาลอินเดียผ่อนคลายมาตรการเกือบทั้งหมด ขณะที่ในหลายพื้นที่ยังคงใช้มาตรการควบคุมของตัวเองอยู่



         นายกุมาร กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สามารถหลบรอดการตรวจได้ ทำให้เจ้าหน้าที่รับภาระเพิ่มขึ้นมากพอๆ กับ พฤติกรรมของคน หลังจากมีการเปิดประเทศคนไม่ทำตามมาตรการควบคุมโควิด-19 พวกเขาประมาทเกินไป



มีแนวโน้ม ญี่ปุ่น อาจยกเลิกโอลิมปิก โควิดกลายพันธุ์ระบาดหนัก



         สำนักข่าวเกียวโด รายงานบทสัมภาษณ์ของนายโทชิฮิโระ นิกาอิ เลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่จะออกอากาศในวันศุกร์นี้ 16 เม.ย.64 โดยเขาระบุว่า หากจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีความเป็นไปได้ที่เราอาจจะต้องยกเลิกการแข่งขันโอลิมปิก ก่อนที่การแข่งขันกีฬาจะเริ่มขึ้นอีกไม่ถึง 100 วันข้างหน้า



         ขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงโตเกียว หลังจากที่รัฐบาลยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่โอซากา ก็มีผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่



         นายชิเงรุ โอมิ ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาลญี่ปุ่น ยอมรับว่า ญี่ปุ่นกำลังเผชิญการแพร่ระบาด ระลอกที่ 4 ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการแพร่กระจายของไวรัสกลายพันธุ์



         จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้ญี่ปุ่นจำใจเลื่อนการแข่งขันโอลิมปิก 2020 จากปีที่แล้วมาเป็นช่วงกลางปีนี้ และยังต้องจัดการแข่งขันแบบไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าชมในสนามด้วย



         ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดยสำนักข่าวเกียวโด พบว่า คนญี่ปุ่นเกินร้อยละ 70 ต้องการให้ยกเลิกหรือเลื่อนการแข่งขันออกไปก่อน ขณะที่ แฮชแท็ก #Canceling Olympics ก็ติดเทรนด์ ยอดนิยมของทวิตเตอร์ญี่ปุ่น มียอดทวิตเกือบ 300,000 ครั้ง



ผอ.องค์การเภสัชกรรม เดนมาร์ก ล้มทั้งยืน ระหว่างแถลงข่าวไม่ใช้วัคซีนแอสตราฯ



         เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดและน่าตกใจ ระหว่างที่นายซอเริน โบรชตรอม ผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเดนมาร์ก แถลงข่าวร่วมกับนางแทเนีย อีริคเซน ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ชี้แจงกรณีเดนมาร์ก ยกเลิกการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา เนื่องจาก ความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน จู่ๆ นางอีริคเซน ก็ล้มตึงลงไปกับพื้นด้านหลังโพเดียม สร้างความตกอกตกใจให้กับเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน



         หลังจากที่นางอีริคเซน ล้มลงไป เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ และนายโบรชตรอม ที่ยืนอยู่ข้างๆ และอยู่ในอาการตกใจ ก็ได้รีบเข้าไปช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล รายงานข่าว ระบุว่า นายอีริคเซน มีอาการป่วย โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด แต่ล่าสุด รู้สึกตัวและอาการดีขึ้นแล้ว  



รัสเซีย กร้าวสหรัฐฯ ต้องชดใช้อย่างสาสม หลังคว่ำบาตร-ขับทูตรัสเซีย



        หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียพร้อมกับขับไล่ทูตรัสเซีย 10 คน ออกจากประเทศ โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้รัสเซียที่แทรกแซงการเลือกตั้งและแฮกข้อมูลของสหรัฐฯ



        ล่าสุด นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ประกาศกร้าวว่า สหรัฐฯต้องชดใช้อย่างสาสม จากการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราไม่อาจยอมรับพฤติกรรมที่ก้าวร้าวเช่นนี้ และจะตอบโต้มาตรการคว่ำบาตร สหรัฐฯต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ขณะที่ รัสเซีย เรียกนายจอห์น ซัลลิแวน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำรัสเซีย มาคุยที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย



       โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า เคยเตือนสหรัฐฯ หลายครั้งแล้วถึงผลของการกระทำที่จะทำให้ทั้งสองประเทศเกิดการเผชิญหน้ากัน



       ก่อนหน้านี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน นายไบเดน ได้แสดงความสนใจที่จะทำให้ความสัมพันธ์รัสเซีย-สหรัฐฯ กลับสู่ภาวะปกติ แต่การกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯกลับตรงกันข้าม



หุ้นสหรัฐฯพุ่งขึ้นแรง ขานรับผลประกอบการ-ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น



        ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันที่ 15 เม.ย.64 ดีดตัวแรง ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่



-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 305.10 จุด หรือร้อยละ 0.90 ปิดที่ 34,035.99 จุด



-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 45.76 จุด หรือร้อยละ1.11 ปิดที่ 4,170.42 จุด



-แนสแดค เพิ่มขึ้น 180.92 จุด หรือร้อยละ1.31 ปิดที่ 14,038.76 จุด



         ยอดค้าปลีกสหรัฐฯในเดือนมี.ค.64 เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 9.8 หลังจากชาวอเมริกันใช้จ่ายเพิ่มเติมตามร้านอาหารและสินค้ากีฬา ตกแต่งทำสวน รวมไปถึงซื้อรถ ในขณะที่การฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มกระจายในวงกว้างแล้ว

         กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับ 576,000 ราย เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 มี.ค.2020 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 710,000 ราย



         นอกจากนี้แล้วตลาดยังได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจาก ซิตี้กรุ๊ปและแบงค์ออฟอเมริกา 2 ธนาคารล่าสุดในบรรดาสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่มีกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเท่าตัวและปล่อยเงินสำรองปริมาณมหาศาล ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว



         ราคาน้ำมันปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ หลังจากข้อมูลบวกเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผลประกอบการบริษัทที่ออกมาดี



-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพ.ค.64 เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 63.46 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิ.ย.64 เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 66.94 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



 



 

ข่าวทั้งหมด

X