ไอเออีเอ ย้ำบทบาทสำคัญในการตรวจสอบการปล่อยน้ำบำบัดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ

          นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ เปิดเผยว่า ไอเออีเอจะมีบทบาทสำคัญและเป็นหน้าที่ "ถาวร" ในการตรวจสอบการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิลงสู่ทะเล ซึ่งการมีส่วนร่วมของหน่วยงานสหประชาชาติเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและให้ความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม

          รัฐบาลญี่ปุ่นมีมติเมื่อวันอังคาร (13 เม.ย.) ให้โรงไฟฟ้าสามารถทิ้งน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่ทะเล รวมปริมาณมากกว่า 1 ล้านตัน และยืนยันว่าไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันในประเทศเพื่อนบ้านและกลุ่มประมงในประเทศ

          จากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคม 2554 โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ยังต้องใช้น้ำหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และทำให้มีน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วเก็บสะสมไว้จนเกือบเต็มพื้นที่ ซึ่งในกระบวนการปล่อยน้ำลงสู่ทะเล มีความซับซ้อนในการเจือจางและปล่อยน้ำ คาดว่าจะสามารถเริ่มการทำงานได้ภายใน 2 ปี ซึ่งนายกรอสซี กล่าวว่า ไอเออีเอจะเป็นศูนย์กลางของการทำงาน รวมถึงการให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและการตรวจสอบ การปฏิบัติตามแผนการทำงานอย่างปลอดภัย ซึ่งการทำงานในส่วนนี้อาจใช้เวลาหลายปี เขายอมรับด้วยว่า ญี่ปุ่นสามารถดำเนินการได้โดยลำพัง แต่ความร่วมมือกับองค์กรระดับนานาชาติ จะสร้างความเชื่อมั่นและเป็นการสร้างความโปร่งใสในการทำงานมากขึ้น

...