ดร.หลี่ ไอแลน ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำกัมพูชา เปิดเผยว่า สถานการณ์ของโควิด-19 ในกัมพูชากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เริ่มพบผู้ป่วยเมื่อนานกว่า 1 ปีที่แล้ว เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์สหราชอาณาจักร ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการละเมิดการกักกันตัว และกล่าวเตือนว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเข้าสู่ "โศกนาฏกรรมระดับชาติ" ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์กัมพูชามีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,000 คนและเมื่อวันพุธ (14 เม.ย.) มีผู้เสียชีวิต 35 ราย เปรียบเทียบกับจำนวนผู้ป่วยน้อยกว่า 500 รายในปีแรกของการระบาดและไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ในวันนี้ (15 เม.ย.) รัฐบาลมีคำสั่งให้ชาวกรุงพนมเปญ และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ ทุกคนต้องอยู่บ้าน เว้นแต่การออกไปซื้ออาหารหรือไปรับการรักษาพยาบาล ซึ่งยังเป็นมาตรการที่ออกมาในช่วงกลางของเทศกาลปีใหม่กัมพูชา ซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติ 3 วันเริ่มตั้งแต่เมื่อวันพุธ โดยปกติจะเป็นช่วงเวลาที่ชาวกัมพูชาเดินทางกลับไปจังหวัดบ้านเกิดของตนเพื่อเฉลิมฉลอง
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ประชาชนอยู่บ้าน ซึ่งดร.หลี่ กล่าวว่า แม้จะมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมการแพร่ระบาด แต่ก็มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นทุกวัน หากยังไม่สามารถหยุดการระบาดได้ ระบบสาธารณสุขของกัมพูชาก็มีความเสี่ยงสูงที่จะล่มสลาย โดยก่อนหน้านี้กัมพูชามีสถานการณ์ของโรคโควิดที่มีผู้ป่วยกลุ่มเล็กๆ ซึ่งถูกควบคุมอย่างรวดเร็ว แต่สายพันธุ์สหราชอาณาจักรติดต่อได้ง่าย หลายประเทศที่มีระบบสุขภาพที่เข้มแข็งยังมีปัญหาในการควบคุมตัวแปรนี้ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งเดียวกันนี้จะไม่เกิดขึ้นกับกัมพูชา
การระบาดระลอกใหม่ของกัมพูชามีความเกี่ยวข้องกับกรณี 20 กุมภาพันธ์ ชาวจีน 4 คนที่เดินทางมาจากดูไบ ถูกกล่าวหาว่าติดสินบนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ออกจากเขตกักบริเวณโรงแรมก่อนสิ้นสุดการกักกัน 14 วัน นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ยังยอมรับว่า “ธรรมาภิบาล” เป็นปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ของโรคระบาดเลวร้ายลง โดยเฉพาะการที่มีผู้ป่วยมากกว่า 50 คนให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามพวกเขาได้ และสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อพบผู้ป่วยในภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม
....