ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30น.วันอังคารที่ 13 เมษายน 2564

13 เมษายน 2564, 13:15น.


กทม.ยืนยัน ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มเสี่ยงสถานบริการย่านทองหล่อ ควบคุมการระบาดในวงกว้าง



         นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึง กรณีที่มีการวิจารณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มเสี่ยงที่ทำงานสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ทั้งที่ยังมีกลุ่มเสี่ยงอื่นๆที่ต้องทำงานกับคนจำนวนมากและยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ว่า การให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เขตวัฒนา เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันและควบคุมไม่ให้การแพร่ระบาดขยายวงกว้างออกไป เช่นเดียวกับ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในตลาดและชุมชนพื้นที่โดยรอบตลาดในเขตบางแค



         การฉีดวัคซีนดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 64 ประกอบกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา ได้ให้ข้อมูลว่า หนึ่งในกระบวนการควบคุมการแพร่ระบาดโรค คือ การให้วัคซีน เพราะจะทำให้ลดโอกาสการติดเชื้อ หรือหากติดเชื้อจะมีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ แต่มิได้หมายความว่าคนที่ได้รับวัคซีนจะไม่มีโอกาสติดเชื้อ กรุงเทพมหานครจึงฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ร่วมกับการดำเนินมาตรการอื่นๆ เช่น การสอบสวนโรค การควบคุม แยกกัก กักกันโรค การเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด และการรักษาผู้ป่วย เป็นต้น



ประจวบฯพบเชื้อโควิด-19 เพิ่มจากผับ 141 คน



          นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 141 คน ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกใหม่อยู่ที่ 334 คน ตั้งแต่วันที่ 1- 13  เม.ย. 64 เป็นการระบาดจากการร่วมดื่มกินและชมคอนเสิร์ต โจอี้บอย ที่มายาผับ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 30 มี.ค.64 ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการรุนแรง และมีอาการป่วยเล็กน้อย  3 คน เข้ารับการรักษาตัวกระจายในโรงพยาบาลภายในจังหวัด ขณะเดียวกันมีประชาชนกลุ่มเสี่ยงขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ รพ.หัวหิน มีผู้เดินทางมาเฉลี่ยวันละ 500 คน ทำให้ต้องส่งตัวอย่างสารคัดหลั่งบางส่วนไปตรวจทางห้องปฏิบัติการที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี เพื่อให้ทราบผลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น



          ล่าสุดได้แจ้งให้คนที่เดินทางไปเที่ยวสถานบริการหลายพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 ไปรายงานตัวที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่เคยไปในสถานที่วันและเวลาเดียวกันกับผู้ติดเชื้อรายใดรายหนึ่งสามารถมาขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่ รพ.ประจวบฯ และ รพ.หัวหิน หากซักประวัติแล้วพบว่าเป็นผู้ที่เข้าเกณฑ์ต้องรับการตรวจหาเชื้อ ก็จะไม่เสียค่าบริการ



-อ.หัวหิน : ระรื่นชื่นบาร์ ทองสุขคาเฟ่ และ ไลน์อัพ



-อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ : เที่ยวสถานบริการ 33 สเตชั่น ไพรเวท แตงเบริ์ด และ มาย แองเจิ้ล 



จัดสรรแอลกอฮอล์เจล-หน้ากาก ในรพ.สนาม ที่ศูนย์ประชุมฯ อ.เมือง จ.เชียงใหม่



         นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในหลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างมาอย่างต่อเนื่อง กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุ ไต้ตระหนักถึงปัญหาและความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาความไม่เพียงพอของโรงพยาบาลที่จะต้องรองรับกับผู้ป่วยจำนวนมาก จึงได้อนุญาตให้จังหวัดเชียงใหม่ใช้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชม.1745 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ เป็นการชั่วคราว สำหรับรองรับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง และมีผลเอ็กซเรย์ปอดเป็นปกติ มารักษาตัวและสังเกตอาการ มาตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.64 โดยมีเตียงผู้ป่วยจำนวน 280 เตียง แยกเป็นชาย 140 เตียง และหญิง 140 เตียง พร้อมทั้งสั่งการให้นายสมเกียรติ บุญทัน ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ นำแอลกอฮอล์เจลและหน้ากากอนามัย พร้อมสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ด้วย



          นายยุทธนาฯ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานภายใต้สังกัดของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง พร้อมสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย



ผลวิจัย เผยเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ในสหรัฐฯ- อังกฤษ ไม่ทำให้คนตายเร็วขึ้น



         รศ.เอเลนี นัสตูลี จากมหาวิทยาลัยยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน (University College London) อังกฤษ ในฐานะผู้ร่วมเขียนผลการวิจัยเรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษหรือ B117  พิมพ์แพร่ผลวิจัยในวารสารการแพทย์ เดอะแลนเซ็ต อินเฟคเชียส ดีซิสเซส( Lancet Infectious Diseases) ระบุว่าเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษซึ่งเป็นเชื้อกลายพันธุ์หลักที่พบในสหรัฐฯไม่ทำให้คนไข้ป่วยหนักและเสียชีวิตเร็วขึ้นดังที่ผลวิจัยแห่งหนึ่งของอังกฤษระบุก่อนหน้านี้ แต่ทีมวิจัยเห็นตรงกันกับผลวิจัยครั้งก่อนว่าเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ระบาดเร็วกว่าเชื้อไวรัสชนิดดั้งเดิม



          จากการศึกษากลุ่มคนไข้ที่ติดโรคโควิด-19 รวม 339 คน ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆในกรุงลอนดอน ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทีมวิจัย พบว่า ร้อยละ 36 ของคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ มีอาการป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิต เทียบกับร้อยละ 38 ของคนไข้ที่ป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสชนิดดั้งเดิม ชี้ว่า อัตราการป่วยหนักหรือการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ไม่รุนแรงดังที่หลายคนคิดไว้ในตอนแรก



         การที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์ B117 ระบาดในรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ  ในระยะนี้ ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจนกระทั่งทำให้รัฐมิชิแกนกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ของสหรัฐฯ หลายฝ่ายกังวลว่าโรคโควิด-19 อาจจะกลับมาระบาดอีกระลอก



         ขณะที่นาง เกรธเชน วิธเมอร์(Gretchen Whitmer) ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ขอให้รัฐบาลกลางกระจายวัคซีนให้กับรัฐมิชิแกนให้มากขึ้น เพื่อให้รัฐมิชิแกนสามารถจะควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ



         ในปัจจุบันสหรัฐฯ มีผู้ป่วยสะสม 31,990,143 คน เสียชีวิต 576,298 ราย เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดอันดับที่หนึ่งของโลก  



 

ข่าวทั้งหมด

X