ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันอังคารที่ 13 เมษายน 2564

13 เมษายน 2564, 09:13น.



อภ.เตรียมซื้อยาฟาวิพิราเวียร์อีก 500,000 เม็ด




         ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เพื่อเป็นการรองรับกับสถานการณ์ดังกล่าว องค์การเภสัชกรรมได้มีการสำรองและกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพื่อให้สามารถมีใช้ได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง และได้กระจายยาไปสำรองในพื้นที่ต่างๆแล้ว และมีการสำรองอยู่ที่คลังยาขององค์การเภสัชกรรมจำนวน 411,200 เม็ด นอกจากนี้ คณะทำงานกลุ่มภารกิจสำรองเวชภัณฑ์และส่งกำลังบำรุงกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรมสั่งซื้อเพิ่มเติมอีกจำนวน 500,000 เม็ด



CR:องค์การเภสัชกรรม



อธิบดีกรมควบคุมโรค ไม่เน้นปิดสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อ ย้ำ 3 วิธีจัดการ



        นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง การจำแนกกลุ่มเสี่ยง กรณีผู้ติดเชื้อในสถานที่ทำงานว่า ระยะนี้พบการติดเชื้อในหน่วยงาน อยู่ในตึก อยู่คอนโดมิเนียม ไม่เน้นย้ำเรื่องการปิดสถานที่ เนื่องจากสถานที่ไม่ใช่ความเสี่ยงมากนัก ยกเว้นสถานที่แออัดกับการระบายอากาศไม่ดี เจ้าของต้องหาจุดเสี่ยง จัดให้สถานที่มีการถ่ายเทดี จัดจุดรับประทานอาหารให้ห่างกัน หรือมีห้องส่วนตัวในการรับประทานอาหาร มีวิธีการจัดการ 3 อย่าง คือ



1.คน ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ หรือผู้ไม่มีความเสี่ยง ขอย้ำว่าผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ พูดคุยกันเกิน 5 นาทีโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย นั่งทานข้าวด้วยกัน อยู่ในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเทเกิน 15 นาที คนกลุ่มนี้จะต้องตรวจหาเชื้อและกักตัวอีก 14 วัน ขณะที่ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ สามารถไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยสวมหน้ากากอนามัยและจะต้องสังเกตอาการตัวเอง เลี่ยงการไปพบคนหมู่มาก



2.หากพบผู้ติดเชื้อในหน่วยงานหรือในสถานที่ คอนโดมิเนียม เจ้าของสถานที่จะต้องทำความสะอาดในจุดสัมผัสร่วม เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได ประตู ลูกบิด ไม่ต้องฉีดพ่นทั้งอาคาร และให้ตรวจสอบคนเข้าออกอย่างใกล้ชิด



3.ระบบตรวจสอบ ผู้เข้าออกในสถานที่นั้นๆ เช่น การสแกนไทยชนะหรือหมอชนะเพื่อการสอบสวนโรคที่มีประสิทธิภาพ

หลังสงกรานต์ยอดพุ่ง นศ.-คนทำงาน ติดจำนวนมาก



         อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การระบาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ต้องจับตาช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ แม้จะเริ่มชะลอตัวบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม รูปแบบการระบาดต่างจากครั้งที่ผ่านมา เพราะครั้งนี้พบการระบาดในวัยทำงาน คนหนุ่มสาว นักศึกษา และช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของสถานศึกษา มหาวิทยาลัยหลายแห่ง รวมทั้งผู้ไปเที่ยวสถานบันเทิงก็กลับบ้านเยอะ เมื่อแบ่งการระบาดออกเป็นสี จะแบ่งได้ 5 ระดับ




หลายหมู่บ้านใน จ.แม่ฮ่องสอน ทำไม้กั้นปิดทางเข้าหมู่บ้าน



         นายนุปอย ไพรสำราญรุ่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแม่ลายเหนือ หมู่ 6 ต.ป่าโปง อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน  พร้อมชาวบ้าน ได้ช่วยกันทำไม้กั้นปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าเด็ดขาด เนื่องจากหวั่นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมี  บ้านห้วยกุ้ง  หมู่ 7 ต.ป่าโปง  อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน  และ บ้านแม่เหาะกลาง หมู่ 10 ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง 



         ชาวบ้านประชุมร่วมกันและมีมติทำการปิดหมู่บ้าน  ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกหมู่บ้าน เพื่อป้องกันโรคระบาด และหากมีญาติมาจากต่างจังหวัด หรือ มีธุระฉุกเฉินให้ประสานกับผู้นำหมู่บ้าน โดยมีการเขียนเบอร์ติดต่อไว้บริเวณจุดปิดทางเข้าหมู่บ้าน 



         กรณีลูกหลานที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดและอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ขอให้ผู้ปกครองแจ้งไม่ต้องกลับมาในช่วงนี้ เพราะจะไม่ให้เข้าหมู่บ้านเด็ดขาด และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กังวลว่าเพื่อนฝูงกลุ่มวัยรุ่นจะรวมกลุ่มสังสรรค์จึงเห็นชอบมีมติรวมกันในการปิดหมู่บ้านดังกล่าว



         นาย​พอเจตน์ แก้วธารากุล​ ผู้ใหญ่บ้านห้วยเฮี๊ยะ หมู่ 8 ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า พร้อมชาวบ้าน ได้ช่วยกันทำไม้กั้นปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อมิให้บุคคลภายนอกเข้าเด็ดขาด และมีการคัดกรองคนในหมู่บ้านอย่างเคร่งครัดหากไม่จำเป็นก็ไม่อนุญาตให้ออกนอกชุมชน เนื่องจากหวั่นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งทำพิธี​สะเดาะ​เคราะห์​ให้สิ่งไม่ดีออกไปจากหมู่บ้านตามวิถีลาหู่ที่นับถือกันมาแต่บรรพบุรุษ



         ผู้ใหญ่บ้านห้วยเฮี๊ยะ กล่าวว่า จุดชมวิวกิกอคอบ้านห้วยเฮี๊ยะ ปกติจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงได้ร่วมประชุมกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาในหมู่บ้าน จึงเห็นชอบให้ปิดหมู่บ้านตั้งแต่วันนี้ เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนดเปิด อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ดีขึ้นจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเหมือนเดิม พร้อมทั้งกล่าวอีกว่า การปิดหมู่บ้านครั้งนี้นอกจากบ้านห้วยเฮี๊ยะ ก็ยังมีบ้านผาเผือก และบ้านลุกข้าวหลามซึ่งเป็นทางผ่านมายังหมู่บ้านตนก็ปิดเช่นกัน 





CR:สำนักงานสาธารณสุข จ. แม่ฮ่องสอน 



จ.ประจวบฯ สกัดโควิด-19 ได้ดี-เร็ว อ.หัวหิน ปลอดเชื้อ



         นพ.สมศักดิ์  อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวถึง กรณี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าดำเนินการได้ดี โดยค้นพบผู้ป่วยรอบ 24 ชั่วโมง 52 คน สะสม 193 คน จุดเริ่มต้นของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาจากผู้ไปสถานบันเทิง 1 คน จากคริสตัล คลับ จากนั้นมีอาการไปติดคนในครอบครัว ตอนมีอาการก็เดินทางไป จ.ประจวบคีรีขันธ์  ถือเป็นเคสนำเข้า ผู้ป่วยได้เดินทางไปเที่ยวในผับกับเพื่อน 7 คน ซึ่งคนที่ไปด้วยกันติดเชื้อหมด จังหวัดได้สอบสวนโรคและติดตามคนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและจุดที่ผู้ติดเชื้อไปได้ทำลายเชื้อทุกจุดในหัวหินแล้วเมื่อวันที่ 9 เม.ย.64 ขณะนี้ จุดต่างๆ ในหัวหินจึงปลอดเชื้อแล้ว ถือเป็นตัวอย่างจังหวัดที่ควบคุมได้ดี



ห่วงประชาชนตรวจแล็บไม่ได้มาตรฐาน



         อธิบดีกรมการแพทย์  แสดงความเป็นห่วง เพราะได้รับรายงานว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งไปตรวจที่แล็บที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  อาจให้ผลไม่ตรง ดังนั้น ก่อนจะไปรับการตรวจเชื้อขอให้ประชาชนตรวจสอบไปที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่ามีแล็บใดที่ได้รับการรับรอง แต่โดยหลักการไปตรวจที่โรงพยาบาลจะชัดเจนกว่า เมื่อผลออกมาเป็นบวกจะส่ง sms ไปบอกประชาชนเพื่อให้รอการรับตัว  อย่างไรก็ตาม ต้องให้แล็บตรวจหาเชื้อผูกโยงกับโรงพยาบาลปลายทางให้มีความชัดเจนขึ้น เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่ไปตรวจแล็บนอกแล้วผลบวกก็ไม่รู้จะไปที่ไหน



          เมื่อได้รับการแจ้งว่าตรวจพบเชื้อ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า 1669 ศูนย์เอราวัณ จะจัดรถมารับ แต่อาจต้องรอเวลาเพราะเคสเยอะ ขอให้ผู้ตรวจพบติดเชื้อ รออยู่ที่บ้าน โดยแยกตัวเด็ดขาดจากคนในครอบครัวและสวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลา แต่ถ้าใครมีรถประจำ และทราบสถานพยาบาลที่จะรองรับแล้ว สวมหน้ากากอนามัย ขับรถมาที่โรงพยาบาลเองได้ โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา



รมว.ท่องเที่ยวฯ 'พิพัฒน์' เตรียมหารือนายกฯ รื้อแผนรับนักท่องเที่ยว



         นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา  เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับภาคเอกชนท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อรับมือกับผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 คลัสเตอร์สถานบันเทิง และนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ยอมรับว่า กังวลจะกระทบกับเป้าหมายการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยผ่านโครงการนำร่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์



          โควิด-19 ระลอกใหม่จากคลัสเตอร์สถานบันเทิง อาจกระทบเป้าหมายนำนักท่องเที่ยวเข้าไทยปีนี้ จำนวน 6,500,000 คน นำรายได้เข้าประเทศประมาณ 1,200,000 ล้านบาท หลังจากหารือเอกชนท่องเที่ยวเพื่อประเมินผลกระทบแล้วจะนำรายละเอียดและสิ่งที่เอกชนต้องการความช่วยเหลือเสนอนายกฯ เพื่อหารือว่าจะมีการปรับแผนการนำนักท่องเที่ยวเข้าไทยในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้หรือไม่



         ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทยที่มีแพ็กเกจเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ที่มีระยะเวลาการเดินทางอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน วงเงินไม่เกิน 5,000 บาท 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ และเราเที่ยวด้วยกัน ที่เพิ่มสิทธิ์การเดินทางท่องเที่ยว 2 ล้านสิทธิ์ เบื้องต้น ยืนยันจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ในเดือนพ.ค.64 เพื่อให้นักท่องเที่ยวเตรียมเดินทางในช่วงไตรมาส 3




 

ข่าวทั้งหมด

X