การสวมหน้ากากอนามัยสามารถรักษาชีวิตชาวอเมริกันได้อย่างน้อย 14,000 คน

          สถาบันเมตริกและการประเมินผลด้านสุขภาพ ของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington Institute for Health Metrics and Evaluation's : IHME) เปิดเผยผลการวิจัยที่ยืนยันว่า การสวมหน้ากากอนามัยสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และสามารถลดการเสียชีวิตได้ โดยคาดว่าสหรัฐฯจะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 618,523 รายภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ และหากประชากรสหรัฐฯร้อยละ 95 สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยการเสียชีวิตจะลดลงมาอยู่ที่ 604,413 ราย

          ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เมื่อผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วมีการใช้ชีวิตตามปกติเหมือนก่อนที่จะมีสถานการณ์โควิด-19 การเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 697,573 ราย

          ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน เป็นต้นไปทั้ง 50 มลรัฐจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับชาวอเมริกันอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งถูกระบุว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในการเอาชนะไวรัส แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่าประเทศกำลังแข่งขันกับโควิดสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะทำให้สถานการณ์ของโรคระบาดกลับมารุนแรงขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ สหรัฐอเมริกามีรายงานผู้ป่วยรายใหม่อย่างน้อย 80,157 คน และเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่มีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 75,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 561,000 ราย จนถึงปัจจุบัน

          นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า วัคซีนเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส แต่ยังไม่สมบูรณ์แบบและควรเสริมด้วยข้อควรระวังเช่นการสวมหน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มในพื้นที่ปิด 

...