รัฐมหาราษฏระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงที่สุดของอินเดียเข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์เริ่มตั้งแต่วันนี้ เมื่อต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและการขาดแคลนวัคซีน หลังจากวันหยุดในงานเทศกาลทางศาสนา การชุมนุมทางการเมือง และการแข่งขันคริกเก็ตตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม อินเดียที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกก็มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าหนึ่งล้านคนแล้ว โดยจำนวนผู้ป่วยสะสมนับตั้งแต่พบผู้ป่วยรายแรกคือ 13,205,926 คนและเสียชีวิต 168,436 ราย
อินเดียมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง รัฐบาลกลางจึงพยายามหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่สอง แต่ขณะนี้ทางการของหลายรัฐกำลังเพิ่มมาตรการทางสาธารณสุขเพื่อควบคุมโรคระบาดโดยเฉพาะที่นครมุมไบ ของรัฐมหาราษฏระ มีการประกาศให้ร้านอาหารปิดทำการและห้ามการรวมกลุ่มมากกว่าห้าคนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน ประชาชน 125 ล้านคนจะต้องอยู่ในบ้านเว้นแต่จะออกไปซื้ออาหาร ยาหรือมีความจำเป็นต้องเดินทาง
ส่วนที่กรุงนิวเดลีและเมืองใหญ่หลายแห่งมีการบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวตอนกลางคืน
และเมืองรายปุระ ในรัฐฉัตตีสครห์ ใช้มาตรการล็อกดาวน์ 10 วันโดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่เว้นแต่จะมีความจำเป็น
ขณะเดียวกันโครงการวัคซีนของอินเดียที่มีเป้าหมาย 1,300 ล้านคนต้องหยุดชะงักหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนไปได้ 94 ล้านโดส และเหลือวัคซีนในคลังไม่มากนัก โรงพยาบาลในนครมุมไบหยุดฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตั้งแต่วันพฤหัสบดี (8 เม.ย.)
หนังสือพิมพ์ไทม์ออฟอินเดียรายงานเมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) ว่าโดยเฉลี่ยแล้วรัฐมีวัคซีนอยู่ในคลังเพียง 5 วันเท่านั้น
..