นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ออสเตรเลียสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค จากสหรัฐฯ-เยอรมนี เพิ่มสองเท่า เป็น 40 ล้านโดส คาดว่าไฟเซอร์จะสามารถส่งมอบวัคซีนให้กับออสเตรเลียปลายปีนี้ พร้อมทั้งทบทวนแผนกระจายวัคซีนใหม่ หลังผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความกังวลเรื่องผลข้างเคียง โดยเฉพาะภาวะลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ผู้ผลิตวัคซีนจากอังกฤษ-สวีเดน
กระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียยังได้เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบการฉีดวัคซีนใหม่ โดยกำหนดให้ประชาชนเกือบ 12 ล้านคนที่อายุต่ำกว่า 50 ปีให้ฉีดวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์แทนวัคซีนจากแอสตราเซเนกาซึ่งกำหนดไว้ในตอนแรก กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนจากแอสตราเซเนกาให้เฉพาะกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป พร้อมทั้งสั่งซื้อวัคซีนอีก 51 ล้านโดสจากบริษัทโนวาแว็กซ์(Novavax)ของสหรัฐฯซึ่งอยู่ในขั้นตอนการวิจัยในเฟสที่ 3 คาดว่าวัคซีนจากโนวาแว็กซ์จะได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯปลายปีนี้
ที่ผ่านมา โครงการวัคซีนของออสเตรเลียใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาเป็นหลัก โดยออสเตรเลียสั่งซื้อวัคซีนจากแอสตราเซเนการวม 50 ล้านโดส ผลิตในประเทศโดยบริษัทชีวเภสัชกรรม CSL เพียงพอสำหรับฉีดคนละ 2 เข็มสำหรับประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน แต่ในขณะนี้ ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศเช่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์และเยอรมนี เริ่มจำกัดกลุ่มอายุที่จะใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาเนื่องจากความกังวลเรื่องภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
Cr: Reuters, Yahoo Finance