รัฐไฟเขียวเอกชนจัดหาวัคซีนทางเลือกอีก 10 ล้านโดส สั่ง กทม.เร่งหาทางรองรับผู้ป่วยเพิ่ม

09 เมษายน 2564, 12:46น.


            นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข,กรมควบคุมโรค,สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา,องค์การเภสัชกรรม,สถาบันวัคซีนแห่งชาติ,สมาคมโรงพยาบาลเอกชน และภาคเอกชนอื่นๆ เพื่อหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนและการวางแผนรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ที่อาจจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น



          เนื่องจากขณะนี้มีประเด็นในโซเชียลมีเดียว่า โรงพยาบาลเอกชนต้องงดบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากน้ำยาตรวจหมด แต่ในที่ประชุมวันนี้ โรงพยาบาลเอกชนแจ้งว่า น้ำยาตรวจยังมี แต่ที่เป็นปัญหาคือ มีข้อกำหนดจากกระทรวงสาธารณสุขว่า หากตรวจพบว่า ติดเชื้อจะต้องให้ผู้ป่วยแอดมิดเข้ารับการรักษาทันที ซึ่งทำให้ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนต่างๆ มีเตียงไม่เพียงพอกับผู้ป่วย จึงต้องงดบริการตรวจหาเชื้อไปก่อน นายกรัฐมนตรี จึงสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ไปหาแนวทางแก้ไข โดยโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร สามารถขยายศักยภาพรับผู้ป่วยได้อีก 5,000 กว่าเตียง รวมทั้งจะเพิ่มทางเลือกรักษาตัวในโรงแรม และการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จะหามาตรการผ่อนคลายให้กับโรงพยาบาลเอกชน ในการส่งต่อผู้ป่วยติดเชื้อไปยังโรงพยาบาลอื่นที่ยังสามารถรับผู้ป่วยได้ และในกรณีผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรืออาการไม่มาก อาจพิจารณาในการพักรักษาตัวที่อื่นโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล



          ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้ ภาครัฐจัดหาได้ประมาณ 75 ล้านโดส สามารถฉีดให้กับประชากร 35 ล้านคน แต่กระทรวงสาธารณสุขประเมินว่าหากจะให้ประชาชนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ จะต้องฉีดวัคซีนในประชาชนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคน ดังนั้นจึงยังขาดวัคซีนอีก 10 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับประชาชนอีก 5 ล้านคน ซึ่งโรงพยาบาลเอกชน เสนอตัวนำเข้าวัคซีน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน แต่ที่ผ่านมามีข้อติดขัดคือ บริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศ ต้องการหนังสือรับรองจากภาครัฐ จึงขอให้หน่วยงานของภาครัฐ ออกหนังสือรับรองให้ หรือให้องค์การเภสัชกรรมสั่งซื้อเข้ามาแล้วให้โรงพยาบาลเอกชนแบ่งซื้อไปฉีดให้กับประชาชนอีกต่อ  ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับทุกข้อเสนอ จึงแต่งตั้งให้ ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธานคณะทำงานจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยมีองค์การเภสัชกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมกันหาแนวทางและเสนอให้นายกรัฐมนตรีรับทราบภายใน 1 เดือน เพื่อเร่งจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เร็วที่สุด



          นายกรัฐมนตรี ยังเป็นห่วงเรื่องการฉีดวัคซีน จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดฉีดให้เร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขสามารถฉีดให้ประชาชนได้วันละประมาณ 10,000 คน โดยที่จังหวัดภูเก็ต สามารถเร่งฉีดให้ประชาชนได้ถึงวันละ 14,000 คน โดยหลังจากนี้ จะพิจารณาเรื่องการฉีดวัคซีน ให้สามารถเปลี่ยนแปลงและสอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งจะมีการกระจายวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มเติม เนื่องจากมีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนค่อนข้างมาก 

ข่าวทั้งหมด

X