WHO เผยโครงการโคแว็กซ์สามารถกระจายวัคซีนให้กับประเทศต่างๆกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

          องค์การอนามัยโลก(WHO)และองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนชื่อว่า กาวี(Gavi)ระบุในแถลงการณ์ว่าโครงการกระจายวัคซีนให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลาง หรือโครงการโคแว็กซ์(COVAX)สามารถส่งมอบวัคซีนเกือบ 38,400,000 โดสให้กับประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้กว่า 100 ประเทศและเขตเศรษฐกิจทั่วทั้ง 6 ทวีปทั่วโลก 6 สัปดาห์หลังโครงการ COVAX เริ่มต้นกระจายวัคซีน นับเป็นความร่วมมือในระดับนานาชาติเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่สร้างปัญหาวุ่นวายให้กับระบบสาธารณสุขทั่วโลก

          ถึงแม้ว่าจะประสบปัญหาเช่น มีปริมาณวัคซีนลดลงในเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน อีกทั้งอินเดียมีความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาของอังกฤษที่ผลิตจากโรงงานในอินเดีย แต่องค์การอนามัยโลก องค์กรกาวี พร้อมกลุ่มแนวร่วมนวัตกรรมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations)มั่นใจว่าโครงการ COVAX จะสามารถส่งมอบวัคซีนกว่า 2,000 ล้านโดสให้กับประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้ครบทั้ง 190 ประเทศในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาจากอังกฤษ,วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคจากสหรัฐฯ-เยอรมนีและวัคซีนจากบริษัทโมเดอร์นาจากสหรัฐฯ

          ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศที่มีฐานะร่ำรวยซึ่งมีประชากรคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14 ของประชากรทั่วโลกสั่งซื้อวัคซีนรวม 4,600 ล้านโดส หรือกว่าร้อยละ 53 ของปริมาณวัคซีนทั้งหมดที่ผลิตได้ในขณะนี้ ในขณะที่กลุ่มประเทศที่มีฐานะยากจนถึงมีรายได้ปานกลางสั่งซื้อวัคซีนรวมกันเพียง 670 ล้านโดส  องค์การอนามัยโลกและพันธมิตรวัคซีนหวังว่าโครงการ COVAX จะช่วยให้ 92 ประเทศที่มีฐานะยากจนมีโอกาสได้รับวัคซีนเพื่อฉีดให้กับประชาชนพร้อมๆกับประเทศที่มีฐานะร่ำรวยอีก 98 ประเทศ โดผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขส่วนใหญ่เชื่อว่าการกระจายวัควีนอย่างเท่าเทียมกันทั่วโลกคือมาตรการสำคัญที่จะนำไปสู่การสิ้นสุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอนาคต

           ปัจจุบันมีผู้ป่วยสะสม 133,856,896 คนทั่วโลก เสียชีวิต 2,904,466 ราย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดคือสหรัฐฯ บราซิล อินเดีย ฝรั่งเศสและรัสเซีย

Cr: Reuters,BBC