รัฐบาลสหรัฐฯคืนเงินช่วยเหลือปาเลสไตน์ 235 ล้านดอลลาร์

          ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯวางแผนที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ชาวปาเลสไตน์ 235 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดความช่วยเหลือในระหว่างที่เขาอยู่ในอำนาจ แต่ประธานาธิบดีไบเดนต้องการฟื้นฟูการมีส่วนร่วมที่น่าเชื่อถือกับปาเลสไตน์จึงให้คืนเงินช่วยเหลือ และเดินหน้าการเจรจาสันติภาพที่หยุดชะงักมานาน โดยเงินประมาณ 2 ใน 3 จะจ่ายให้กับหน่วยงานของสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์

          ทั้งนี้ ผู้นำปาเลสไตน์ กล่าวหาว่า นายทรัมป์ไม่มีความเป็นกลางและสนับสนุนฝ่ายอิสราเอลอย่างเปิดเผย จึงปฏิเสธแผนสันติภาพที่ยอมรับอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือการตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในเวสต์แบงก์และหุบเขาจอร์แดนซึ่งเป็นพื้นที่ยึดครอง ทั้งรับรองให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

          อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออกในสงครามตะวันออกกลางปี 2510 แต่ประชาคมระหว่างประเทศระบุว่า เป็นการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศแม้ว่าอิสราเอลจะโต้แย้งเรื่องนี้ก็ตาม

          นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่าสหรัฐฯ มีแผนความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, โครงการสร้างสันติภาพผ่านสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือยูเอสเอด 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับการบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ และหน่วยงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์จำนวน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด-19 และความไม่มั่นคงด้านอาหารในเวสต์แบงก์และฉนวนกาซาจำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่สหรัฐฯประกาศเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งนายบลิงเคนกล่าวว่า ความช่วยเหลือปาเลสไตน์คือการรักษาผลประโยชน์และคุณค่าที่สำคัญของสหรัฐฯ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสนับสนุนความเข้าใจของอิสราเอล-ปาเลสไตน์

          ด้านกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล ระบุว่าความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ควรมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและจำเป็น เพื่อสนับสนุนการทำงานของสหประชาชาติ ขณะที่ทางการปาเลสไตน์ แสดงความยินดีที่รัฐบาลสหรัฐฯให้การสนับสนุนทางการเงินอีกครั้ง

...