ชิลี เผยผลศึกษาวัคซีน ซิโนแวค ฉีดโดสเดียว ป้องกันโควิดได้แค่ 3%
สำนักข่าว AVS CBN ของประเทศชิลี รายงานว่า มหาวิทยาลัยชิลี ของประเทศชิลี เปิดเผยผลการศึกษาจากโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนโคโรนาแว็คของบริษัทซิโนแวคพบข้อมูลว่าการฉีดวัคซีนเพียงแค่โดสแรกไม่เพียงพอสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
นายเอ็นนิโอ วิวัลดี อธิการบดีมหาวิทยาลัยชิลี กล่าวว่า ผลการศึกษาพบว่า การฉีดวัคซีนเพียงแค่ 1 โดส ในช่วงเวลาระหว่าง 28 วัน ก่อนที่จะมีการฉีดวัคซีนโดสที่ 2 พบว่า ประสิทธิภาพวัคซีนมีเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น การฉีดวัคซีนช่วยลดความเป็นไปได้ของการติดเชื้อเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าไม่ได้กำจัดเชื้อ
ผลทดสอบก็ออกมาชัดเจนแล้วว่าการฉีดวัคซีนแค่โดสแรก โดยไม่ได้ฉีดโดสที่ 2 ตามมาในระยะเวลา 4 สัปดาห์ ให้ผลแทบจะไม่แตกต่างจากผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย
สหราชอาณาจักร เริ่มกระจายวัคซีนโมเดอร์นา เป็นตัวที่ 3
นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า อังกฤษเริ่มกระจายวัคซีนจากบริษัทโมเดอร์นาของสหรัฐฯเพื่อฉีดป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนในเวลส์ เป็นการฉีดวัคซีนตัวที่ 3 ต่อจากวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์จากสหรัฐฯและจากบริษัทแอสตราเซเนกาของสหราชอาณาจักร ไม่ว่าประชาชนจะอาศัยอยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่น จะโทรศัพท์ไปนัดหมายให้มาฉีดวัคซีน
นายแฮนค็อก คาดว่า ประชาชนในพื้นที่อื่นๆของสหราชอาณาจักรเช่น อังกฤษ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ จะสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนจากบริษัทโมเดอร์นาใน 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งจะเพิ่มความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรมากขึ้น มีปริมาณวัคซีนเข้ามาสู่ระบบสาธารณสุขมากขึ้น
ด้าน น.ส.เอลลี เทเลอร์ อายุ 24 ปีจากเมืองอัมมานฟอร์ด เวลส์ ทำหน้าที่ดูแลคุณย่าวัย 82 ปี เป็นคนแรกที่เข้ารับการฉีดวัคซีนจากบริษัทโมเดอร์นา โดยเธอไปเข้ารับการฉีดวัคซีนที่แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลเวสต์ เวลส์ เจเนอรัล ฮอสปิทอล(West Wales General Hospital) กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เธอมีโอกาสฉีดวัคซีน จะช่วยให้เธอปลอดภัยจากโรคโควิด-19 เนื่องจากเธอต้องดูแลคุณย่า ส่วนคุณย่าของเธอฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว และจะฉีดวัคซีนเข็มที่สองในวันเสาร์นี้
ในปัจจุบัน สหราชอาณาจักร ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนรวม 31,600,000 คน และฉีดวัคซีนครบสองเข็มให้ประชาชน 5,500,000 คน รัฐบาลสหราชอาณาจักร ตั้งเป้าว่าในเร็วๆนี้ สหราชอาณาจักรจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด 67,886,011 คน
ฟิลิปปินส์ สั่งสอบด่วน ! ตร.ลงโทษวิดพื้น-ลุกยืน 300 ครั้ง ทำให้ชายวัย 28 ปี เสียชีวิต
กระทรวงความมั่นคงภายในของฟิลิปปินส์ และนายกเทศมนตรีของเมืองเจเนรัลไตรอัส (General Trias) สั่งให้มีการสอบสวน กรณีนายดาร์เรน มานาอ็อก เปนาเรดอนโด อายุ 28 ปี เสียชีวิต เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว หลังนายเปนาเรดอนโด ออกจากบ้านไปซื้อน้ำดื่มเมื่อคืนวันที่ 1 เม.ย.64 เป็นการฝ่าฝืนตามมาตรการห้ามประชาชนออกจากเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ตำรวจสั่งให้นายเปนาเรดอนโด วิดพื้นและลุกยืนรวม 300 ครั้ง
ครอบครัวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในตอนแรก ผู้ตายมีอาการชักเกร็ง แต่ญาติสามารถช่วยให้เขาคลายจากอาการชักเกร็งที่บ้าน ต่อมาเขามีอาการชักเกร็งอีกครั้ง คราวนี้รุนแรงถึงขั้นหมดสติ ญาติรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เขาเสียชีวิตในเวลา 22.00 น. นอกจากนี้ เขามีอาการหน้ามืด ล้มลงหลายครั้งในช่วงที่ถูกสั่งให้วิดพื้น ลุกยืน
นายโจนาธาน มาลายา ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวน กล่าวว่า จะสอบสวนตำรวจที่สั่งลงโทษทางวินัยและดำเนินคดีอาญา
ก่อนหน้านี้ องค์กรฮิวแมนไรท์วอช องค์กรสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯขอให้ทางการฟิลิปปินส์เคารพสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของผู้ถูกควบคุมตัวกรณีละเมิดกฎระเบียบควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ผู้นำฟิลิปปินส์ ยกเลิกการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ จนท.- คณะทำงาน ใกล้ชิดติดโควิด-19
ฟิลิปปินส์ เผชิญกับการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง และเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียที่มีการระบาดหนักที่สุด โรงพยาบาลในกรุงมะนิลา เต็มไปด้วยคนไข้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังพุ่งสูง ขณะที่การกระจายวัคซีนให้แก่ประชาชนยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว ยอดติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูง อย่างวันที่ 2 เม.ย.64 มีผู้ติดเชื้อถึง 15,000 คน ส่วนใหญ่พบในเมืองหลวงกรุงมะนิลา ขณะที่ ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 819,000 คน เสียชีวิตสะสมอีกกว่า 14,000 ราย
สถานการณ์ล่าสุด นายโรดริโก ดูเตร์เต ประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ ยกเลิกการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ หลังจากที่พบว่าคณะทำงานใกล้ชิดติดเชื้อโควิด-19 หลายคน มีการเปิดเผยว่ารัฐมนตรีกลาโหมเป็นหนึ่งในนั้น และยังมีการ์ดรักษาความปลอดภัยให้นายดูเตร์เต อีกหลายคน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนที่แน่ชัด
โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี ระบุในแถลงการณ์ว่า ความปลอดภัยของประธานาธิบดีต้องมาเป็นอันดับแรก รวมทั้งยังมีความห่วงใยในสุขภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน จึงจำเป็นต้องยกเลิกการแถลงประจำสัปดาห์ออกไปก่อน โดยจนถึงขณะนี้ นายดูเตร์เต ยังไม่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 จากซิโนแวค ตามคำแนะนำของแพทย์ประจำตัวที่ให้รอวัคซีนตัวอื่น
กัมพูชา ฉีดวัคซีนให้คนงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ
สถานการณ์ที่กัมพูชา นายเฮง ซอร์ (Heng Sour) โฆษกกระทรวงแรงงานกัมพูชา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกัมพูชา เริ่มฉีดวัคซีนให้กับคนงานในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ภาครัฐ หวังว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกัมพูชาให้ฟื้นตัว หลังการระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงในอนาคต
นายเฮง ซอร์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการฉีดวัคซีนในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลต้องการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำศูนย์ฉีดวัคซีนทุกแห่ง ตั้งเป้าจะจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 10 แห่ง เพื่อให้ฉีดวัคซีนได้เพิ่มขึ้นวันละ 10,000-12,000 คน
ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอของกัมพูชา มีแรงงานทั้งหมด 850,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง สร้างรายได้เข้าประเทศคิดเป็นร้อยละ 16 ของจีดีพีของกัมพูชา
กัมพูชา มีผู้ป่วยสะสม 2,915 คน เสียชีวิต 22 ราย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ป่วยน้อยที่สุดในโลก โดยเฉพาะการระบาดรอบใหม่ปลายเดือนก.พ.64 ทำให้มีคนเสียชีวิตรายแรกๆของประเทศ
โอซากา วิกฤต ! ใช้เตียงรองรับผู้ป่วยไปแล้ว 70%
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขญี่ปุ่น รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการระบาดระลอกสี่ ก่อนถึงการจัดแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกเพียง 107 วัน ขณะที่โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ก็ยังคงตามหลังกลุ่มประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่
สื่อญี่ปุ่น รายงานว่า จังหวัดโอซากา พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันทะลุ 800 คน ทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งใช้เตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงไปราวร้อยละ 70
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นายฮิโรฟูมิ โยชิมูระ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอซากา แถลงยกเลิกพิธีวิ่งคบเพลิงโตเกียวโอลิมปิก บนท้องถนนทั่วจังหวัดโอซากา และจะจัดให้มีการวิ่งในสวนสาธารณะแทน เนื่องจากขณะนี้ระบบสาธารณสุข กำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวครั้งใหญ่ เนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ซึ่งติดต่อกันได้ง่าย พุ่งสูงขึ้นในกลุ่มประชาชนวัยหนุ่มสาว และเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนในโอซากางดเดินทางออกจากบ้านโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
ทั้งนี้ จังหวัดโอซากา เฮียวโงะ และมิยางิเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์เฉพาะกลุ่มเป็นเวลา 1 เดือนตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อควบคุมการระบาดที่รุนแรงของเชื้อโควิดกลายพันธุ์
ญี่ปุ่น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้ประชาชนราว 1,000,000 คน นับตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนเมื่อเดือนก.พ.64 คิดเป็นอัตราส่วนไม่ถึงร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมด 126,000,000 คน และน้อยกว่าเกาหลีใต้ที่ฉีดได้เกือบร้อยละ 2 จากประชากร 51,000,000 คน ทั้งที่เกาหลีใต้ เริ่มฉีดวัคซีนช้ากว่าญี่ปุ่น ขณะนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 487,500 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 9,200 ราย
รมว.พลังงาน เผยพยายามกดค่าไฟงวดใหม่ให้ต่ำกว่า 3.98 บาทต่อหน่วย
...
ผู้โดยสาร 3 หมื่นคนเดือดร้อน ไรอันแอร์ยกเลิกเที่ยวบิน เหตุประท้วงในฝรั่งเศส
...
คลังเผยจัดเก็บรายได้ 8 เดือนแรกปี68 ต่ำเป้า 1.2 หมื่นล้าน
...
ข่าวทั้งหมด
