โคราช สั่งคนมาจากพื้นที่สีแดง ต้องมีผลตรวจไม่พบเชื้อก่อนเข้าพื้นที่ -ไม่ต้องการกักตัว 14

          การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ของจังหวัดนครราชสีมา นายศักดื์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากมีการแพร่ระบาดจากหลายคลัสเตอร์ในหลายพื้นที่ นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า แม้ว่าในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จะไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม มากว่า 50 วันแล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 13 คน ซึ่งรักษาหายแล้วทั้งหมดไม่มีผู้เสียชีวิต แต่จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากหลายคลัสเตอร์ ทำให้ต้องมีการวางมาตรการคุมเข้มโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมา ได้วางมาตรการควบคุมประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาไว้ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่สีแดง จะต้องมีการรายงานตัวต่อหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ด้วย พร้อมกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หรือหากไม่สามารถกักตัวได้ จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเท่านั้นด้วย แรพิด เทสต์ (Rapid Test)  ซึ่งตรงนี้จะมีค่าใช้จ่าย จำนวน 600 บาท โดยผู้ตรวจที่มาจากพื้นที่สีแดง จะต้องออกค่าใช้จ่ายเองและนำผลการตรวจมายืนยันกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จึงจะสามารถเข้าในพื้นที่ที่ต้องการได้

          สำหรับมาตรการการจัดกิจกรรมสงกรานต์ ทางจังหวัดฯ ได้ประกาศงดการจัดงานที่มีการรวมตัวกันทุกรูปแบบ ทั้งงานสงกรานต์ งานคอนเสิร์ต การเล่นสาดน้ำ  แต่อนุญาตให้ทำกิจกรรมตามประเพณีทางศาสนาได้ เช่น การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ญาติพี่น้อง การทำบุญตักบาตร แต่ทั้งนี้ ต้องอยู่ในรูปแบบ นิว นอร์มอล (New Normal) จะสวมใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคมด้วย

          ส่วนโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกประกาศงดเยี่ยมผู้ป่วยทุกกรณี จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มมีการระบาดมากขึ้น ยกเว้นผู้ป่วยเด็ก สามารถให้ญาติเฝ้าได้ 1 คน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ